บล็อคแดดให้ผิวเป๊ะ... ส่วนผสมที่ต้องมีในครีมกันแดด

 
เราทราบกันดีว่าการสัมผัสรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตหรือรังสี UV มากเกินไป จะเกิดอันตรายต่อผิวทั้งริ้วรอยก่อนวัยและมะเร็งผิวหนัง แต่มนุษย์เราก็ฉลาดพอจะคิดค้นสารป้องกันแดดในชื่อที่รู้จักกันว่า "ครีมกันแดด" ซึ่งปัจจุบันมี 2 แบบคือแบบเคมีคอลที่ป้องกันผิวด้วยการดูดกลืนรังสี UV และแบบฟิสีคอลที่สะท้อนรังสี UV 

แต่การเลือกครีมกันแดดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะส่วนผสมแต่ละอย่างที่ระบุบนฉลากข้างขวดนั้นมีคุณ มีโทษ และวิธีการใช้แตกต่างกัน บางตัวเป็นมิตรต่อผิวแต่ก็เป็นอัตรายต่อสิ่งแวดล้อม... งั้นมาทำความรู้จักกันหน่อย ว่าก่อนจะเลือกซื้อครีมกันแดดครั้งต่อไป ต้องมีส่วนผสมอะไรบ้าง


 
1. Avobenzone
ให้ผลในการป้องกันรังสี UVA ได้ดีกว่าเมื่ออยู่ในครีมกันแดดแบบเคมีคอลและทำงานคู่กับ Mexoryl โดยหลายประเทศอนุญาตให้เติม zinc oxide และ titanium dioxide เพื่อให้ทำงานได้ดีขึ้นเพราะ Avobenzone ตัวเดียวโดดๆ จะทำงานได้น้อยลง 50-90% ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังการทา... ทั้งนี้ อย.ของสหรัฐอเมริกายืนยันว่าส่วนผสมนี้ปลอดภัยและใช้ได้ไม่เกิน 3%

2. Mexoryl SX
อยู่ในครีมกันแดดแบบเคมีคอล โดยอยู่ในโลชั่นและครีมกันแดดที่ขายกันทั่วโลก สามารถบล็อกรังสี UVA1 คลื่นยาว ต้นเหตุของผิวแก่ก่อนวัย ถืว่าอ่อนโยนพอควรเพราะสามารถใช้ได้กับเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป ทั้งยังไม่เป็นอันตรายกับปะการังด้วย... ทั้งนี้ Mexoryl SX จะป้องกันรังสี UVA ได้ดีมากขึ้นเมื่อทำงานคู่กับ Avobenzone
 
3. Oxybenzone
อยู่ในครีมกันแดดแบบฟิสีคอล เป็นส่วนผสมที่นิยมมาก ช่วยสะท้อนรังสี UVA คลื่นสั้นและรังสี UVB โดย อย.ของ สหรัฐอเมริกาอนุญาตใส่ได้มากถึง 6% แต่ก็ไม่เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย... ขณะที่ Haereticus Environmental Laboratory (HEL) วิจัยพบว่า Oxybenzone ทำให้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว ดังนั้นก่อนเล่นน้ำทะเลทุกครั้งต้องมั่นใจว่าตัวคุณจะไม่เป็นต้นเหตุของการทำร้ายสิ่งแวดล้อม
 
4. Octinoxate
พบในครีมกันแดดแบบเคมีคอล ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากรังสี UV อันตรายจากการถูกแดดเผาและผิวแก่ก่อนวัย โดยอนุญาตให้ใส่ได้มากถึง 7.5% และจะทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อทำงานคู่กับ avobenzone ... แต่สารตัวนี้ถูกแบนในฮาวาย เพราะเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำในแนวปะการัง
 
5. Tinosorb S และ M 
อยู่ในครีมกันแดดแบบเคมีคอล โดยเป็นส่วนผสมที่นิยมในทวีปยุโรป ออสเตรเลีย รวมถึงญี่ปุ่น ช่วยป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB ถือเป็นส่วนผสมที่ดีที่สุดในการป้องกันอันตรายจากแสงแดดและการเกิดอนุมูลอิสระ สามารถใส่ได้ถึง 10% ของส่วนประกอบทั้งหมด... แต่ อย.ของสหรัฐอเมริกาก็แบน Tinosorb S และ M เพราะมองว่ายังศึกษาผลกระทบได้ไม่ดีพอ
 
6. Titanium dioxide
อยู่ในครีมกันแดดแบบฟิสีคอล ซึ่งอย.ของสหรัฐอเมริกายืนยันว่าปลอดภัยและป้องกันอันตรายจากแดดได้จริง เด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไปก็สามารถใช้ได้แล้ว สามารถป้องกันรังสี UV ได้ ยกเว้นรังสี UVA1 คลื่นยาวที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย... แต่มีข้อควรระวัง จากบทความวิชาการเรื่อง Titanium dioxide in our everyday life; is it safe? ระบุว่าควรหลีกเลี่ยง Titanium dioxide ในรูปแบบของสเปรย์และผงแป้ง เพราะอาจเป็นต้นเหตุของการเกิดมะเร็งได้หากเข้าปาก โปรดจำไว้ว่าส่วนผสมนี้อาจอยู่ในเครื่องสำอาง แป้งอัดแข็ง โลชั่น รวมถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มไวเทนนิ่งด้วย
 
7. Zinc oxide
ส่วนประกอบอีกตัวที่อย.สหรัฐบอกว่าไม่อันตรายและป้องกันแดดได้จริง พบในครีมกันแดดแบบฟิสีคอล ไม่ก่อให้เกิดอันตรายยกเว้นคุณจะเผลอกินเข้าไป และเมื่อเทียบกับ avobenzone และ titanium oxide แล้ว Zinc oxide จะมีประสิทธิภาพ มีความคงตัวและปลอดภัยต่อผิวบอบบางมากกว่า
 
• 5 ข้อต้องรู้ ก่อนทาครีมกันแดด
1) เลือกแบบที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB โดยมองหาคำว่า broad-spectrum protection และมีค่า SPF ไม่น้อยกว่า SPF30
2) ควรทาทั้งผิวหน้าและลำคอ อย่าขี้เหนียวเกินไป 
3) อย่าลืมบริเวณรอบดวงตาและใบหูของคุณด้วยล่ะ
4) หากทำกิจกรรมกลางแจ้งควรทาทุก 2-3 ชั่วโมง และควรทาทันทีหลังจากลงเล่นน้ำ และถ้าคุณแต่งหน้าก็สามารถใช้แป้งที่มีค่า SPF ได้เหมือนกัน
5) อย่าหวังพึ่งเครื่องสำอางที่มีค่า SPF ทางที่ดีควรทาครีมกันแดดด้วย เช่น ถ้าครีมกันแดดมีค่า SPF30 และเครื่องสำอางมีค่า SPF10 คุณก็จะป้องกันแสงแดดได้เท่ากับผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูงสุด คือ SPF30 เท่านั้น

ถ้าคุณขี้เกียจทาครีมกันแดด เราจะบอกว่าทำไมคุณต้องคิดใหม่


 
-->