'ปอดแฟบ' อันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า ที่สายควันไม่ทันตั้งตัว

ช่วงนี้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่นิยมมากขึ้นและสามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งหลายคนมองว่า บุหรี่ไฟฟ้าให้โทษน้อยกว่าการสูบบุหรี่แบบม้วน ล่าสุดมีอายุรแพทย์ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่ามีเด็กอายุ 16 มาด้วยอาการเจ็บหน้าอก ซึ่งอาการนี้มีสาเหตุหลักมาจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าจัด แม้ว่าเราจะยังไม่มีงานวิจัยที่เป็นสิ่งยืนยันถึงความอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้า แถมบุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอีกต่างหาก นี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อสังเกตที่เราควรระมัดระวังไว้บ้างก็คงจะดีไม่น้อยเลยล่ะ!



#เคสตัวอย่าง ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ไม่ได้มีดีอย่างที่หลายคนคิด
เรามีเคสที่น่าสนใจที่ถูกถ่ายทอดโดย นายแพทย์ เทวินทร์ ชาคริยานุโยค โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้กับชาวแก๊งค์ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า หลังจากมีเคสเด็กผู้ชายคนหนึ่ง อายุ 16 ปี มาหาหมอด้วยอาการเจ็บหน้าอกเวลาหายใจ ผลการวินิจฉัยพบว่าลมรั่วในช่องปอดซึ่งส่งผลทำให้ปอดขวาแฟบ และแน่นอนว่า ต้นเหตุของเรื่องนี้คือ Vape หรือพอต หลายคนจะเรียกว่าบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง ซึ่งจากเคสนี้เราได้คำอธิบายอย่างชัดเจนจากคุณหมอว่า “ในองค์ประกอบ ควันบุหรี่ไฟฟ้าจะมีนิโคตินเป็นหลัก ปกติบุหรี่ไฟฟ้าจะสามารถเลือกความเข้มข้นในนี้ได้ และยังมีสารโพรพิลีนไกลคอล, คาร์บอนนิล, metallic-metalloid compound, THC, Vit E acetate สารแต่งกลิ่น ที่เป็นเอสเทอร์ไฮโดรคาร์บอน และสารเคมีอื่น ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบในระยะสั้น ระดับเซลล์ และเนื้อเยื่อเกิด Chemical burn ทำให้เยื่อปอดเป็นรูในเคสนี้ อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการอักเสบเรื้อรังระดับเซลล์จนเกิดเป็นมะเร็งในระยะยาวได้” และก่อนจะจบคำอธิบายของเคสนี้ คุณหมอได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายไม่ยิ่งหย่อนกว่าบุหรี่ธรรมดา เลิกได้เลิกเถอะ เลิกไม่ได้และไปต่อ หมอพร้อมดูแล”

สรุป!!! บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้มีดีไปกว่าบุหรี่แบบม้วนเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มุ่งหวังทำลายปอดของเราทั้งสิ้น แถมยังมีข้อมูลของกรมการแพทย์ที่ได้ออกมาเปิดเผยว่า ปัจจุบันพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 140,000 คน/ปี เฉลี่ยวันละ 400 คน/วัน ซึ่งจากสถิติปี 2566 ชี้ให้เห็นว่า ‘มะเร็งปอด’ เป็นหนึ่งในมะเร็ง 5 ชนิดที่พบมากที่สุดในคนไทย เห็นแบบนี้แล้วเราหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังคิดจะเลิกใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอย่างมากเลยล่ะ

#ความร้ายกาจของ ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ที่หลายคนต้องหันกลับมาคิดทบทวน!
ข้อเท็จจริงที่เราได้รวบรวมงานวิจัยจากหลากหลายแห่ง ซึ่งมีความเห็นตรงกันว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ มิหนำซ้ำยังทำให้กลายเป็นมาติดบุหรี่ไฟฟ้าแทนซะได้ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัย รวมทั้งวารสารทางการแพทย์อีกหลากหลายประเทศก็ยังให้คำเตือนว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตราย อีกหนึ่งสิ่งที่เราอยากให้ทุกคนตระหนัก อย่างประเทศไทยของเราก็มีกฎหมายต้องห้ามที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยระบุว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ขาย หรือใช้เองก็ถือว่ามีความผิดทั้งสิ้น และเมื่อมาดูโทษและอัตราการเทียบปรับก็ต้องตะลึงเลยทีเดียว 
 
  • ผู้ใดเป็นผู้ขาย หรือเป็นผู้ให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • ผู้ใดนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านั้นด้วย
  • ผู้ใดครอบครอง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจําทั้งปรับ



#ทางเลือกของคนอยากเลิกสูบบุหรี่
ขึ้นชื่อว่า ‘สิ่งไม่ดี’ เราก็ไม่อยากให้ใครได้เสี่ยงทั้งนั้น และไม่ว่าจะเป็นบุหรี่แบบม้วน หรือบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารก่อมะเร็งน้อยกว่าก็ตาม แต่ถ้าเราเลิกแบบเด็ดขาดก็จะส่งผลดีต่อสุขภาพของเราในระยะยาวได้เช่นกัน ดังนั้นเราลองมาดูเทคนิคดีๆ ที่จะทำให้ทุกคนเลิกบุหรี่ได้แบบเด็ดขาด
 
  • ลูกอมและหมากฝรั่ง ตัวช่วยที่ดีคือ ตัวแทนสิ่งที่ขาดหายไป ดังนั้นหากเราเริ่มต้นการเลิกในช่วงแรกๆ อาจจะต้องซื้อหมากฝรั่งหรือลูกอมติดกระเป๋าเอาไว้ อยากสูบบุหรี่ขึ้นมาก็เคี้ยวหมากฝรั่งหรือลูกอมไปเพลินๆ
  • อยู่ให้ห่างจากสิ่งเร้า บางครั้งการติดบุหรี่ก็มาในรูปแบบสิ่งเร้า เช่น การอยู่ใกล้กับเพื่อนๆ หรือคนรู้จักสูบบุหรี่ ซึ่งถ้าเราอยากเลิก เราก็พยายามเลี่ยงที่จะเจอกับกลุ่มคนเหล่านี้ 
  • หาแรงบันดาลใจดีๆ ที่ทำให้เลิกแบบเด็ดขาด บางครั้งการเลิกในครั้งนี้ คือการทำเพื่อใครสักคน มันก็คงดีไม่น้อยเลย หากเราอยากเลิกบุหรี่เพราะคนที่เรารัก ลูก หรือคนในครอบครัวของเรา แน่นอนว่าเราคงไม่อยากให้เขาต้องมาเสี่ยงกับเราหรอก จริงมั้ย
  • การใช้ยาเลิกบุหรี่ ปัจจุบันมียาหลากหลายที่ให้ผลดีมาก เช่น ยาวาเรนิคลิน (Varenicline) ยาบูโบรพิออน (Bupropion) หรือจะเป็นตัวยาอย่าง ไซทิซีน (Cytisine) ซึ่งเป็นสารสกัดธรรมชาติจากเมล็ดจามจุรีสีทอง มีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการถอนนิโคติน ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายและไม่หงุดหงิดขณะที่เข้าสู่กระบวนการเลิกบุหรี่ และนี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก หากการเลิกด้วยวิธีการหักดิบใช้ไม่ได้ผล

อย่าคิดว่าการเลิกบุหรี่เป็นเรื่องยาก ถ้าคุณยังไม่ได้ลองพยายามมันดู มีหลายคนที่ล้มเหลวจากการเลิกในครั้งแรก แต่ปัจจุบันเขาเหล่านั้นก็สามารถเลิกบุหรี่ได้เด็ดขาด เราเชื่อว่าคุณจะทำได้ อย่าเพิ่งหมดความพยายามและหมดหวังกับมัน เราเป็นกำลังใจให้กับทุกคนเสมอ

อ้างอิง นายแพทย์ เทวินทร์ ชาคริยานุโยค
-->