ไม่อยาก “พัง” อย่าเป็นคู่รักติดหวานมากเกินไป

ถ้าเป็นเรื่องรักจะหวานแค่ไหนก็ได้อยู่ แต่ขอให้หยุดแค่นั้นพอ เพราะถ้าขืนติด (กิน) หวานมากไป อาจทำให้ “พัง” กันทั้งคู่ ซึ่งตัวการของเรื่องนี้ก็ไม่ใช่มือที่ 3 ที่ไหน แต่เป็น (น้อง) น้ำตาลนี่เองที่ทำให้ร่างกายเกิดโรคได้หลายชนิด ต่อให้จะมีงานวิจัยโดยนักวิจัยจาก North Dakota State University ที่ศึกษาพฤติกรรมแล้วพบความเชื่อมโยงว่าคนชอบกินรสหวานมีแนวโน้มจะเป็นคนน่ารัก มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือ และเข้ากับใครๆ ง่าย ก็อย่าเสี่ยงเลยจะดีกว่า...



ขอน้ำตาลเติม (หัวใจ) หน่อย...จะดีเหรอ
คู่ (กิน) หวานคู่ไหนชอบเติมน้ำตาล หรือกินหวานบ่อยๆ ต้องระวังให้ดีเพราะอาจมีภาวะ Sugar Blues หรืออาการเสพติดน้ำตาลอยู่ก็ได้ โดยมีคำแนะนำจาก WHO บอกไว้ว่าปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายควรได้รับใน 1 วันไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา ซึ่งคนที่เป็นอาการนี้จะรู้สึกอยากน้ำตาลทั้งวัน และถ้าวันไหนที่ไม่ได้รับน้ำตาล หรือไม่ได้กินของหวานๆ จะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึก ทำให้หดหู่ อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย สมาธิสั้น ความดันโลหิตต่ำ แต่ถ้ากินน้ำตาลมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้มากกว่า เช่น

#ฟันผุ หลังจากกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่จัดเต็มไปด้วยน้ำตาล จุลินทรีย์ในช่องปากจะย่อยสลายน้ำตาล เกิดเป็นกรดเข้าไปละลายเคลือบฟันอย่างช้าๆ จนเป็นที่มาของฟันผุ
#ผิวเหี่ยว จากการที่น้ำตาลทำปฏิกิริยาเปลี่ยนโครงสร้างของคอลลาเจนทำให้อีลาสติกถูกทำลาย ผิวหนังจึงแห้ง มีริ้วรอยลึก 
#อาหารไม่ย่อย เพราะน้ำตาลจะทำให้แบคทีเรียที่ไม่ดีในทางเดินอาหารเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อการทำงานของระบบการย่อยอาหาร
#ไขมันพอกตับ เมื่อมีน้ำตาลในร่างกายมากเกินความต้องการ น้ำตาลส่วนที่เกินจะถูกตับนำไปสร้างเป็นไขมัน และเกิดการสะสม
#เบาหวาน ผลจากการที่ตับอ่อนต้องทำงานหนักเพื่อหลั่งอินซูลินเพิ่มขึ้นในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จนทำให้ในระยะยาวประสิทธิภาพในการทำงานของตับอ่อนลดลง เป็นผลให้ระดับนํ้าตาลในเลือดสูงขึ้นและเกิดโรคเบาหวานได้
#โรคหัวใจ หากระดับน้ำตาลในเลือดยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็จะส่งผลต่อไปยังหัวใจ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจลดลง จนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคเส้นเลือดในสมองได้ในที่สุด



ทำยังไงให้เป็นคน (อ่อน) หวาน
ถึงจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่อยู่ๆ จะให้เปลี่ยนเป็นคน (กิน) อ่อนหวาน แต่ถ้าค่อยๆ ปรับเปลี่ยนตามนี้ รับรองสุขภาพดีแบบแพ็กคู่ ไม่ยากล่ะงานนี้แหละ
  • สังเกตปริมาณน้ำตาล และวัตถุดิบบนฉลากก่อนจะกิน
  • ไม่เติมน้ำตาลเพิ่ม ไม่ว่าจะเมนูไหนก็ตาม
  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหวาน ให้เลือกไปดื่มน้ำเปล่าแทนดีที่สุด
  • เลือกกินผลไม้หวานน้อย และบอกลาผลไม้แปรรูป 
  • เพิ่มปริมาณผักใบเขียว ที่มีส่วนช่วยชะลอการดูดซึมนํ้าตาล
  • เลิกนิสัยชอบตุนขนม
  • กินข้าวให้ตรงเวลา และไม่อดอาหาร

เบาหวานสามารถเกิดได้กับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คู่ของคุณ ถ้าเป็นเรื่องรักจะใส่ความหวานให้เต็มคาราเบลแค่ไหน ก็จัดไป....
-->