5 ภาวะเสื่อม เมื่อเข้าสู่วัยเลข “3”

ถึงอายุจะเป็นเพียงแค่ตัวเลขที่ไม่สร้างอุปสรรคต่อความรัก แต่ถ้าเป็นเรื่องสุขภาพเราว่ามันคือปัญหาใหญ่เลยล่ะ! ยิ่งเข้าวัยสามสิบด้วยแล้ว ร่างกายก็เริ่มฟ้องความผิดปกติมากมาย งั้นมาดูกันหน่อยว่าช่วงวัยนี้ร่างกายจะเสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง คุณจะได้เตรียมตัวรับมือป้องกันตัวเองได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยจากโรคร้ายต่างๆ ที่จ้องทำลายสุขภาพคุณในอนาคตอีกด้วย!

รู้หรือไม่? อายุ แตะเลขสามเมื่อไหร่ สมองเตรียมสั่งให้ “หลับยากขึ้น” เมื่อนั้น
ล่าสุด! มีงานวิจัยค้นพบว่าการทำงานของระบบประสาทด้านการนอนหลับในมนุษย์เรานั้นจะเริ่มอ่อนแอลงทันทีเมื่อเข้าสู่วัย 30 และมันจะแย่ลงเรื่อยๆ เมื่อเข้าสู่วัย 50 ปี นั่นเป็นเพราะว่า ความสามารถในการนอนหลับสนิทได้เสื่อมเพิ่มไปอีกประมาณร้อยละ 50 โดยเฉลี่ย  และเพื่อความชัวร์! สำหรับใครที่อยากเช็คตัวเองว่ากำลังเผชิญกับความเสื่อมนี้อยู่หรือเปล่า  ทางศาสตราจารย์ แมทธิว วอล์คเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพการนอน จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียแนะนำไว้ว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณหลับแล้วฝัน หากมีคนเห็นว่าดวงตาสองข้างนั้นขยับอย่างต่อเนื่องเวลาหลับแล้วล่ะก็!  รู้มั้ย? มันถือเป็นสัญญาณของคนนอนหลับไม่สนิทนะ  ซึ่งนี่เป็นกลไกของระบบร่างกายที่เสื่อมถอยลงเพราะอายุที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง !

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ท่านนี้ยังได้วิจัยเพิ่มเติมจนพบว่า คนที่มีปัญหานอนหลับยากหรือหลับไม่สนิทนั้นเกิดจากการมีคลื่นสมองที่ไปขัดจังหวะการหลับสนิท โดยยังพบว่าคนๆ นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในสมองอีกด้วย วิธีการรักษาที่วอล์คเกอร์แนะนำ คือการใช้คลื่นแม่เหล็กและคลื่นไฟฟ้าที่อ่อนมากๆ กระตุ้นไปที่การทำงานของสมอง เพียงเท่านี้คนวัยสามสิบหรือผู้สูงอายุก็สามารถที่จะหลับสนิทได้แล้ว

แต่! ไม่ว่ายังไง วิธีแก้ปัญหาที่เราอยากแนะนำคือ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ครบห้าหมู่ มีจิตใจที่แจ่มใส ไม่เครียด เลี่ยงการใช้เครื่องมือสื่อสารต่างๆ ก่อนเข้านอนอย่างเด็ดขาด เพราะร่างกายจะตื่นตัวและไม่รู้สึกว่าห้องนอนเป็นที่แห่งการพักผ่อนเลยล่ะ คนที่ชอบเล่นมือถือบนเตียงนอน หรือทำงานบนเตียงก็เช่นกัน ถ้าชอบทำแบบนี้ เราขอให้หยุดซะ! ส่วนอุณหภูมิห้อง ก็ขอแนะนำว่าควรเย็นพอดี ไม่หนาวไม่ร้อน ประมาณ 25 องศา แค่นี้ก็สามารถช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นบ้างแล้วล่ะ แต่ถ้ายังพบว่าไม่เวริ์ค ลองปรึกษาปัญหานี้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด  

ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ระวัง “โรคมะเร็งเต้านม” ไว้ให้ดี 
เป็นภัยเงียบที่สาวออฟฟิศหลายคนไม่ทันตั้งตัว เพราะการใช้ชีวิตแบบผิดๆ เช่น การไม่พักผ่อน ทานอาหารไม่มีประโยชน์ ความเครียด รวมถึงการเมินเฉยต่อการตรวจคัดกรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  ด้านพญ.วิภาวี สรรพสิทธิ์วงศ์ ศัลยแพทย์ด้านศีรษะ คอ และเต้านม ศูนย์ศีรษะ คอ และเต้านม  โรงพยาบาลพญาไท 3 ได้อธิบายว่า เมื่ออายุมากขึ้น ความเสี่ยงต่อโรคนี้ก็มากขึ้นตามไปด้วย “จากประสบการณ์การดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งเต้านม พบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เข้ามาพบแพทย์เพราะอาการของโรคมากกว่าการเข้ามาเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม อาการที่ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่มาหาหมอ คือหลังจากพวกเขาพบก้อนที่เต้านม”

เพื่อให้คุณลองเช็คตัวเองคร่าวๆ อาการมะเร็งเต้านมที่พบบ่อย คือ มีก้อนที่เต้านม ลักษณะเต้านมจะดูผิดแปลกจากเดิม  มีของเหลวใสหรือเลือดออกจากหัวนมคุณ และคุณอาจมีอาการเจ็บที่รักแร้ ซึ่งเป็นอาการของมะเร็งที่กระจายไปบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้แล้ว

วิธีป้องกันก่อนสายเกินไปคือ การเข้าตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั่นเอง เพราะยิ่งเข้าวัยสามสิบแล้ว ความเสี่ยงก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามที่คุณหมอบอก อีกอย่าง บางครั้งความผิดปกตินี้มันก็ยากที่จะสัมผัสและมองเห็นได้ด้วยตาเปล่านะซิ และที่สำคัญ! โอกาสที่คุณจะหายก็มีมากกว่า 90 % เลยนะรู้มั้ย? โดยเฉพาะถ้าเจอในระยะเริ่มแรก หรือ ระยะที่สอง ฉะนั้นอย่าละเลยที่จะอะแวร์ความเสี่ยงนี้ล่ะ 

อายุเพิ่ม ภาวะเสี่ยงโรคความจำเสื่อมก็เพิ่มตามไปด้วย 
เนื่องจากความเครียดที่ถาโถมจากการทำงานในแต่ละวัน เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการขาดสมาธิ ขาดความจำที่ดี คุณจะมีอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง ภูมิต้านทานอ่อนแอ วิตกกังวล อารมณ์แปรปรวณ ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่จะนำคุณไปสู่ “ภาวะความจำเสื่อม”ในที่สุด 

วิธีแก้ไขคือ คุณต้องเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตใหม่ทั้งหมดเลย ที่เราอยากเน้นคือ การรู้วิธีจัดการกับความเครียดของตัวคุณเอง ทำยังไงก็ได้ไม่ให้จมปักกับปัญหางานจนทำลายสุขภาพจิต เช่น เครียดแต่พอดี ค่อยๆ หาทางแก้ไขปัญหา อย่าเพิ่งคิดกังวลไปล่วงหน้าเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น  พยายามปรับทัศนคติให้ยอมรับกับผลลัพธ์ที่อาจไม่ตรงตามความคาดหวัง พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ความเครียดก็จะไม่มีทางมาทำลายระบบการทำงานของสมองและความคิดของคุณแน่นอน! 

ปวดหลัง ปวดเอวบ่อยๆ อาการหลักที่เกิดจากพฤติกรรมผิดๆ 
ลุกขึ้นยืนแล้วปวดเอว เจ็บแปล๊บๆ บิดซ้ายบิดขวาก็ปวดจนเกินทน นื่ถือเป็นสัญญาณความผิดปกติที่คุณต้องใส่ใจตัวเองให้มากขึ้นแล้วล่ะ โดยเฉพาะกับคนที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมนานๆ นั่งท่าผิดๆ อาการเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ฉะนั้น!สิ่งที่เราอยากแนะนำกับทุกคนกรณีที่ต้องนั่งทำงานในออฟฟิศอยู่ในท่าเดิมนานๆ คือคุณควรเปลี่ยนอิริยาบถในทุกๆ 1 ชั่วโมง เช่น ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ บิดตัว เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อซัก 5 นาที ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อในร่างกายได้ยืดคลายตัวมากขึ้น นอกจากนี้คุณควรหยุดนั่งอยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสม เช่น การนั่งไขว่ห้าง ซึ่งเป็นผลให้กระดูกสันหลังและบริเวณอุ้งเชิงกรานคดงอนั่นเอง  

เชื่อหรือไม่? อายุสามสิบ ก็เสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้เหมือนกัน
พฤติกรรมคือตัวชี้วัดที่สำคัญในการนำตัวคุณไปสู่โรคนี้เลยล่ะ ต่อให้คุณดูแข็งแรงจากภายนอกแค่ไหน มันก็ยากที่จะบอกได้ว่าในช่วงวัยนี้คุณจะไม่มีความเสี่ยงโรคหัวใจแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เลย  เว็บไซต์ health24.com ได้อ้างอิงข้อมูลจากงาน US National Heart, Lung, and Blood Institute เกี่ยวกับเคสนี้ไว้ว่า โรคหัวใจสามารถเกิดกับคนที่อายุน้อยได้ เริ่มได้ตั้งแต่อายุ 18 ไปจนถึง 65 ซึ่งผู้ป่วยในวัย 30 ที่เป็นผู้หญิงบางคนมีโรคหลอดเลือดหัวใจ (CHD) แบบไม่แสดงอาการได้ด้วย เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น แผ่นพลาคที่ผนังของหลอดเลือดหัวใจหนา, อุบัติเหตุที่กระทบหัวใจโดยตรง หรือหัวใจมีออกซิเจนไม่เพียงพอ ส่วนปัจจัยเสี่ยงก็เช่นกัน มีหลายอย่างมากที่เพิ่มโอกาสเสี่ยงให้กับคุณ ไม่ว่าจะเป็น อายุที่มากขึ้น พันธุกรรม และเพศโดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสูงกว่าคุณผู้ชาย ยิ่งคุณมีปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้มากเท่าไหร่โอกาสในการเกิดโรคหัวใจก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น!  

รู้อย่างงี้แล้ว คุณต้องดูแลตัวเองให้ดี เน้นเรื่องการพักผ่อน การรับประทานอาหารและออกกำลังกาย ควบคุมจิตใจให้ดีอยู่เสมอ อ้อ! และอย่าลืมใส่ใจเรื่องการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยล่ะ  และถ้ามีข้อสงสัยปัญหาสุขภาพของตัวเอง ถามเราได้ ตรงนี้เลย!  


 
-->