‘Psychosomatic Disorders’ เมื่อใจป่วยทำให้ร่างกายเจ็บ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะเขามีงานวิจัยมารับรองแล้วว่า ร่างกายกับจิตใจนั้นเชื่อมโยงกันจริง! และยังเชื่อมโยงกันในหลายๆ ระบบด้วย ถ้ายังไม่เห็นภาพ เราจะมาเล่าให้ฟัง
Psychosomatic Disorders คืออะไร Psychosomatic Disorders หมายถึง ความผิดปกติหรืออาการเจ็บป่วยทางร่างกายที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับจิตใจ อารมณ์ หรือความเครียด โดยตรง คือแม้จะไม่มีความผิดปกติของร่างกายที่ตรวจพบได้ชัดเจน แต่ร่างกายจะแสดงอาการออกมาจริง เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง หายใจลำบาก ใจสั่น หรือเป็นผื่นที่ผิวหนัง
รวมลิสต์อาการ! จุดสังเกต อาการนั้นอาจเกิดได้หลายระบบของร่างกาย เช่น ระบบทางเดินอาหาร อาจเป็นอาการปวดท้อง แสบร้อนกลางอก หรือแม้แต่ลำไส้แปรปรวน บางคนอาจมีอาการกับระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น ใจสั่น เจ็บหน้าอก ความดันโลหิตสูง ในส่วนของระบบประสาทนั้นก็สามารถมีอาการเกิดขึ้นได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นปวดหัวเรื้อรัง เวียนศีรษะ มือเท้าสั่น หรือแม้แต่อาการผื่น ลมพิษ หรือผมร่วง ก็เป็นอาการของระบบผิวหนังที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน
เขาเรียกกันว่า Mind-Body Connection นี่คือความสัมพันธ์แบบสองทาง ระหว่าง สภาวะจิตใจ อารมณ์ ความคิด กับสุขภาพร่างกาย ซึ่งสื่อสารกันผ่านระบบฮอร์โมน ประสาท และภูมิคุ้มกัน ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เรารู้สึกเครียด กังวล หรือมีปัญหาทางอารมณ์ สมองจะกระตุ้นระบบ ‘สู้หรือหนี’ (Fight or Flight) ส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด เช่น อะดรีนาลีน และคอร์ติซอล ออกมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไปเร่งการเต้นของหัวใจ ทำให้ความดันสูง หายใจถี่ กล้ามเนื้อตึงเกร็งตามมาได้ นี่คือตัวอย่างของความสัมพันธ์ของสภาวะจิตใจ กับ สมองและระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic Nervous System) หรือเมื่อเราเครียดเรื้อรังก็จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ส่งผลให้ร่างกายติดเชื้อได้ง่ายขึ้น แผลหายช้า หรือเกิดการอักเสบเรื้อรังตามมา นั่นคือสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกับสภาวะจิตใจและระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) รวมถึงความคิดและอารมณ์กระตุ้นให้ต่อมหมวกไตหลั่งคอร์ติซอลมากเกินไป พอนานเข้าก็อาจทำให้เกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ และสมองที่อยู่ในภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้าจะไวต่อความเจ็บปวดมากขึ้น ทำให้รู้สึกปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดท้อง ทั้งที่ตรวจร่างกายแล้วไม่เจอความผิดปกติอะไรก็ตาม
ปัจจัยกระตุ้น! ที่ต้องระวัง
- ความเครียดเรื้อรัง/ สะสม ทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมาอย่างต่อเนื่อง
- เผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนใจ ทั้งการสูญเสียคนรัก อุบัติเหตุ หรือการถูกทำร้ายต่างๆ อาจก่อให้เกิด PTSD หรือภาวะซึมเศร้าได้
- นอนหลับไม่เพียงพอ เพราะการอดนอนทำให้สมองจัดการกับอารมณ์ได้แย่ลง จิตใจอ่อนไหวง่าย ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอตามไปด้วย
- ปัญหาความสัมพันธ์ ครอบครัว หรือการงาน รู้สึกโดดเดี่ยว ไม่มีใครเข้าใจ เสี่ยงซึมเศร้า วิตกกังวล
- บุคลิกภาพที่กดดันตัวเองหรือเก็บกดอารมณ์ ตั้งมาตรฐานสูง กลัวความผิดพลาด วิจารณ์ตัวเองบ่อย ทำให้เกิดความเครียดเรื้อรัง
ดังนั้น…นี่คือ Solution! สิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ต้องเริ่มจากต้นตอ นั่นก็คือการดูแล ‘ใจ’ ก่อน ฝึกผ่อนคลาย หายใจลึกๆ นั่งสมาธิ โยคะ เพราะมีงานจัยบอกว่าการผ่อนคลายสามารถลดฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) ได้ หรือลองฝึกคิดแบบยืดหยุ่น ลดความ perfectionist ลง เปลี่ยน mindset ว่าความผิดพลาดคือการเรียนรู้ อย่ากลัว และเมื่อเริ่มรู้สึกไม่โอค ให้ลองพูดคุยกับเพื่อน หรือขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงถ้าเจออะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็ให้หมั่นทำเรื่อยๆ



