Refeed Day VS Cheat Day ความแตกต่างที่สายไดเอทต้องเเยกแยะด่วน



สายไดเอททั้งหลายมาปรับความเข้าใจกันด่วนกับสองคำนี้ ที่เราเชื่อว่าน่าจะมีหลายๆ คนเข้าใจผิดในความหมายอยู่ เพราะถ้าปล่อยให้เข้าใจผิดต่อไปเรื่อยๆ เเพลนลดน้ำหนักที่ตั้งเป้าไว้อาจไม่เป็นอย่างที่หวังไว้ก็ได้นะ 



Cheat Day คือ
ในช่วงเวลาของการไดเอทก็รู้ๆ กันอยู่ว่าต้องจำกัดชนิดอาหาร   แล้วส่วนใหญ่อาหารที่อร่อยก็เป็นศัตรูของการลดน้ำหนักทั้งนั้น ก็เลยจะต้องให้รางวัลกับตัวเองบ้างอะไรบ้าง โดยการที่กินอะไรก็ได้ในหนึ่งวัน เเละได้เต็มที่ขอแค่ให้ได้กิน เพื่อเป็นการลดความเครียดเรื่องไดเอท และเพิ่มการเผาผลาญของร่างกายให้ดีดขึ้นมากกว่าเดิม หลังจากที่ร่างกายได้เผาผลาญต่ำในช่วงอาทิตย์ที่ไดเอท แต่ Cheat Day จะทำได้แค่ครั้งเดียวต่อหนึ่ง หรือสองอาทิตย์เท่านั้น ห้ามเกินอย่างเด็ดขาด 

Refeed Day คือ 
สำหรับความหมายของคำนี้แตกต่างจาก Cheat Day คือเป็นวันที่เราจะสามารถกินเพิ่มจากตารางอาหารไดเอทประจำของเราได้ประมาณ 20 -50 % โดยที่ให้เน้นคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก เพื่อให้ร่างกายหลั่งสารฮอร์โมน Leptin ที่ทำให้เรารู้สึกอิ่ม คล้ายๆ กับเป็นการให้รางวัลกับร่างกายบ้าง แล้วสิ่งที่ได้จากการ Refeed Day คือ เราจะได้พลังงาน และแรงมากขึ้น ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญ ช่วยลดความเครียดจากการไดเอทลงได้ประมาณหนึ่ง แล้วสุดท้ายคือ น้ำหนัก และแฟตจะไม่เพิ่มพุ่งเท่ากับ Cheat Day อย่างแน่นอน 

สรุปแล้วแบบไหนดีกว่ากัน 
ในช่วงที่ลดน้ำหนักหลายๆ คน ส่วนใหญ่ก็จะรอคอยวัน Cheat Day กันอย่างใจจดใจจ่อ แต่ในบางครั้งการที่เรากินแบบไม่ยั้ง ทำให้กินเยอะจนเกินไป จนน้ำหนักที่ลงไปด้วยความยากลำบากเด้งขึ้นไปมากกว่าเดิม และยังทำให้เราลดน้ำหนักยากกว่าเดิมในอาทิตย์ถัดไปด้วย เลยทำให้ในช่วงหลังมานี้เหล่านักโภชนาการ หรือเหล่าเทรนเนอร์จึงค่อนข้างเทใจเชียร์ให้สายไดเอททำ  Refeed Day กันมากกว่า 

ก็เป็นเพราะข้อดีของเจ้า Refeed Day นั้นมาแรงกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคุม Leptin ฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกอิ่ม และการกินคาร์บแบบ High GI ยังช่วยเพิ่มฮอร์โมน Serotonin ด้วยที่จะทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น เพราะเราก็ยังสามารถกินของหวานแบบเล็กๆ น้อยๆ ได้อย่างพวก ไอศครีม หรือเค้กชิ้นเล็กๆ ทำให้ช่วยมีแรงในวันที่จะออกกำลังกายถัดไป หรือเติมพลังก่อนตอนเช้าในวันที่จะเล่นหนักๆ แต่การกินแบบ Cheat Day มันไม่มีกฎตายตัว และเมื่อกินแล้วทำให้เรารู้สึกอยากอาหารในวันถัดไปอีก ซึ่งมีโอกาสหลุดเพิ่มอีกวันได้ง่ายมาก เพราะมีความสุขในการกินอะไรก็ได้ที่อยากกิน  เลยทำให้แพลนไดเอทที่วางไว้แตกได้อย่างง่ายดาย

แต่สุดท้ายแล้วก็แล้วแต่ความสะดวกใจว่าสะดวกแบบไหน ถ้าคุณมั่นใจว่าหลังจาก Cheat Day เเล้วสามารถคุมตัวเองให้กลับสู่โหมดไดเอทได้สบายๆ ก็ทำเลยไม่มีใครว่าอะไร แต่ถ้าใครที่ส่วนใหญ่ทำแล้วตบะเเตกไหลไปไกล ลองหันมาทำเป็น Refeed Day  ดูก็น่าจะเป็นอีกทางที่จะช่วยให้การไดเอทชิลล์ๆ ขึ้นได้นะ 


 
-->