Skinimalism ทำไม Less is more ถึงดีกว่า?
พูดถึงเทรนด์ Skinimalism นี่คือการดูแลผิวแบบ Back-to-Basics ที่เน้นความเรียบง่าย แต่ตอบโจทย์สุขภาพผิวได้อย่างตรงจุด โดยไม่ใช้สกินแคร์เกินความจำเป็น(2).jpg)
Skinimalism = Skin + Minimalismเป็นแนวคิดการดูแลผิวแบบ น้อยแต่มาก (less is more) เน้น “งานผิว” ให้ผิวได้หายใจ ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ประหยัดทั้งเวลาและการใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอาง
ทำไมคนถึงหันมาดูแลตัวเองแบบ Skinimalism?เพราะหลายคนเคยลองใช้ทุกตัวแล้ว แต่ผิวกลับพัง บางคนเหนื่อยกับการต้องโบกสกินแคร์ก่อนนอน
บางคนเริ่มใส่ใจเรื่องส่วนผสมมากขึ้น เลือกเฉพาะสิ่งที่ตอบโจทย์และเหมาะกับผิวตัวเองจริง ๆ ในปี 2023 ที่ผ่านมา ยอดค้นหาเกี่ยวกับ Skinimalism พุ่งขึ้นกว่า 200% แนวคิด “น้อยแต่มาก” กำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วการดูแลผิวแบบนี้ช่วยอะไรได้บ้าง?ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น และลดโอกาสการแพ้ อุดตัน หรือผื่น เพราะการที่ใช้สกินแคร์หลายตัวอาจทำให้ผิวระคายเคือง เพราะส่วนผสมบางอย่างอาจทำปฏิกิริยากัน
Skinimalism = ให้ผิวได้พัก และฟื้นฟูตามธรรมชาติ เหมาะมากกับผิวแพ้ง่ายหรือผิวอ่อนแอ
Skinimalism ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่อยากเอาเวลาไปทำอย่างอื่นลองนึงภาพ.. เป็นสาว urban กว่าจะฝ่ารถติดกลับถึงบ้านก็เกือบถึงเวลานอน หลายคนอยากจะ pamper ตัวเอง แต่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะทำรูทีนยาว ๆ บางวันได้แค่ล้างหน้า ทาครีมสักตัวก็ดีแล้ว
แนวคิด Skinimalism เลยกลายเป็นทางรอดของชีวิตเมือง — ทั้งง่ายขึ้น เร็วขึ้น และยังรู้สึกว่า “เราใส่ใจผิวอยู่” โดยไม่ต้องทำมาก
ไม่ใช่แค่เรื่อง ‘ผิว’ แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นด้วยเทรนด์ใหม่อย่าง No buy Challenge ก็เป็นอีกเทรนด์นึงที่คนกำลังให้ความสนใจ คนเริ่มหันมาใช้ของเท่าที่จำเป็น ไม่ซื้อเพราะกระแส ตอนนี้อาจจะไม่ใช่ยุคว่า “ของมันต้องมี” แล้ว แต่คือยุคของ “ของที่ใช้แล้วต้องเวิร์ก” ต่างหาก คนเลยเลือกซื้อสกินแคร์ที่ได้ใช้แล้วเห็นผลจริงมากกว่า
Skinimalism ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตยังไง?การที่มีรูทีนสกินแคร์หลายขั้นตอนเพราะเราสร้างความหวังสูง ว่าผิวต้องดีตามสูตร Skinimalism จะทำให้เราปล่อยวางกับมาตราฐานความเป๊ะ ส่งเสริมแนวคิด “slow beauty” ใช้เวลาทำสกินแคร์อย่างตั้งใจ ไม่ใช่ทำแบบรีบช่วยให้เกิดความสงบมากขึ้น พร้อมช่วยสนับสนุน Self-acceptance และ Body positivity ให้เรียนรู้ที่จะยอมรับสภาพผิวตัวเอง มีความมั่นใจในความเป็นตัวเอง รวมไปถึงการลด Decision fatigue ที่ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หลายตัวในแต่ละวัน
“ บางที...การดูแลตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเยอะ แค่เลือกให้ “ใช่” สำหรับตัวเรา ก็เพียงพอแล้ว”