‘อาหารฟังก์ชั่น’ ตัวช่วยเติมเต็มในวันที่อยากดูแลตัวเองให้ดีขึ้น
มีใครเคยได้ยินคำว่า #อาหารฟังก์ชั่น บ้าง #อาหารฟังก์ชั่น นี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพยังไง ทำไมถึงกลายเป็นกระแสที่คนพูดถึง วันนี้ Health Addict จะพาชาว Urban living มาทำความรู้จักกับ #อาหารฟังก์ชั่น เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพ
จุดเริ่มต้นของ #อาหารฟังก์ชั่น แนวคิดเรื่อง #อาหารฟังก์ชั่น นั้นเริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ช่วงปี 1980s ซึ่งเป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นได้เจอกับปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เพิ่มมากขึ้น เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โดยเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากวิถีการกินอาหารแบบตะวันตก ทำให้ในปี 1991 ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศใช้ระบบ FOSHU (Foods for Specified Health Use) เพื่อควบคุมและส่งเสริมอาหารที่มีสารออกฤทธิ์ต่อสุขภาพเป็นประเทศแรกของโลก โดย FOSHU จะใช้ในการรับรองผลิตภัณฑ์อาหารที่มีงานวิจัยยืนยันว่ามีคุณสมบัติช่วยดูแลสุขภาพเฉพาะด้านได้จริง เช่น ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ปรับสมดุลลำไส้ ลดความดันโลหิต
ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีประเทศอื่นๆ ที่เอาแนวทาง FOSHU ไปใช้เป็นต้นแบบ เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และ EU แต่สำหรับประเทศไทยเองนั้นยังไม่ได้มีการรับรองโดยตรงเหมือนญี่ปุ่น แต่จะเป็นการขึ้นทะเบียนเป็นอาหารเสริม หรืออาหารพิเศษภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เช่น โยเกิร์ต ซีเรียลธัญพืช หรือเครื่องดื่มผสมสารสกัดสมุนไพรต่างๆ
cr. visual capitalist
สิ่งที่ #อาหารฟังก์ชั่น ต่างจากอาหารทั่วไป เมื่อพูดถึง #อาหารฟังก์ชั่น เรากำลังหมายถึงอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่นอกจากจะให้พลังงานและสารอาหารพื้นฐานต่อร่างกายแล้ว ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค หรือฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายด้วย เพราะอาหารฟังก์ชั่นโดยทั่วไปจะมีส่วนผสมของสารชีวโมเลกุล เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) โพรไบโอติกส์ (Probiotics) พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ใยอาหาร (Dietary Fiber) เป็นต้น ซึ่งการที่เราจะบอกว่าสิ่งไหนเป็น #อาหารฟังก์ชั่น จะมีวิธีการประเมินอยู่ด้วยกันหลักๆ ตามแนวของ FOSHU ของญี่ปุ่นนั่นก็คือ ต้องมีปริมาณสารอาหารที่สำคัญเพียงพอที่จะออกฤทธิ์ ต้องมีงานวิจัยรอบรับทางวิทยาศาสตร์ว่าส่วนประกอบนั้นมีผลดีต่อสุขภาพจริง และต้องมีการขึ้นทะเบียนหรือรับรองตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ และที่สำคัญ #อาหารฟังก์ชั่น ไม่ใช่ยา ไม่ได้ช่วยรักษาโรค แต่เน้นไปในเชิงป้องกันและลดความเสี่ยง
ตัวอย่างอาหารฟังก์ชั่น
| อาหารที่พบ | สารอาหารที่สำคัญ | ส่งผลดีอย่างไรต่อร่างกาย |
| โยเกิร์ตโพรไบโอติกส์ | โพรไบโอติกส์ เช่น แลคโตบาซิลัส | ปรับสมดุลลำไส้ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี ลดอาการท้องผูก |
| นมเสริม Omega-3 | โอเมก้า-3, DHA | บำรุงสมองและหัวใจ ลดไขมัน LDL |
| ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูป/ธัญพืชโฮลเกรน | เบต้ากลูแคน | ดักจับคอเลสเตอรอลและน้ำตาล ลดการดูดซึม |
| ชาเขียว | สารโพลีฟีนอล | ลดความเสื่อมของเซลล์ ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยเผาผลาญไขมัน |
นอกจากนี้ตัวเลขของ Mintel ในปี 2024 ยังระบุว่า คนไทยมีแนวโน้มที่จะบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เติมสารสุขภาพมากขึ้น เช่น Brain Health, Eye Health, Gut Health และ Hydration ซึ่งกลุ่มของ Functional Beverages เป็นที่นิยมที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
แล้วคุณล่ะ? คิดยังไงกับการกินอาหารฟังก์ชั่น อย่าลืมมาแชร์กันนะ
