ชีวิตคนเมือง ต้องใส่ใจสุขภาพตัวเองยังไงให้รอดปลอดภัยในซัมเมอร์นี้

ใช้ชีวิตในเมือง ไหนใครบอกว่าไม่วุ่นวาย แล้วถ้าเราต้องอยู่ในเมืองแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะใช้ชีวิตยังไงให้สุขภาพดีกันนะ? 



การใช้ชีวิตของคนเมืองดีกว่าสังคมในชนบทจริงเหรอ?
เราเคยตั้งคำถามกันมั้ยว่า ทำไมชีวิตในเมืองมันช่างวุ่นวายขนาดนี้ แถมยังมีความแตกต่างกับสังคมชนบทโดยสิ้นเชิง และถ้าใครเคยใช้ชีวิตในต่างจังหวัดก็จะรู้เลยว่า ช่วงเวลาหัวค่ำทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน และทุกอย่างจะอยู่ในความเงียบสงบ ตรงกันข้ามกับชีวิตคนเมืองที่ผู้คนต่างออกมาสังสรรค์ ปาร์ตี้ แสง สี เสียง จัดเต็ม สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครัน บางสถานที่ในเมืองก็แทบจะใช้ชีวิตได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิตคนเมืองกับสังคมชนบท คือ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เรียกว่า อยากจะได้อะไรก็มีให้หมด แต่มีสิ่งที่ดีก็ย่อมมีสิ่งที่ไม่ดีอยู่บ้าง เพราะถ้าเราหยิบยกเอาเรื่องของสุขภาพ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้อง หลายคนคงจะเลือกใช้ชีวิตในสังคมชนบทมากกว่า เพราะการใช้ชีวิตในต่างจังหวัดค่อนข้างสมดุล อากาศดี ร่มรื่น ผู้คนไม่พลุกพล่าน ค่าครองชีพไม่สูง ไม่ต้องใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ และมีเวลาในการทำอะไรสักอย่างนึงได้มากกว่า

ชีวิตคนเมือง ต้องใส่ใจสุขภาพตัวเองยังไงให้รอด!
ชีวิตที่แสนวุ่นวาย ทั้งผู้คนและความวุ่นวายต่างๆ มากมาย แม้ว่าจะใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย แต่ทุกสิ่งรอบตัวเราล้วนเป็นสิ่งที่แฝงไปด้วยภัยอันตราย ที่มีทั้งด้านร่างกายและด้านจิตใจที่เราต้องใส่ใจให้มากขึ้นกับปัญหาที่หลายๆ คนกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้
 
  • ปัญหามลพิษทางอากาศ เมืองหลวงเป็นเมืองแห่งความวุ่นวาย โดยเฉพาะการจราจรในกรุงเทพมหานคร รวมถึงจังหวัดในแถบปริมณฑล ซึ่งชาวออฟฟิศหลายคนทำงานในเมือง แต่บ้านอยู่ชานเมือง ได้รับผลกระทบเรื่องนี้โดยตรง เช่น ควันดำจากท่อไอเสียรถ กลิ่นเขม่าที่ติดสะสมทั้งก่อนไปทำงาน และกลับจากที่ทำงาน นี่ยังไม่นับคนที่เดินทางโดยเรือโดยสารที่ต้องทนทั้งกลิ่นน้ำมันดีเซลจากเครื่องยนต์เรือ น้ำที่เน่าเสียจนส่งกลิ่นเหม็นเน่าตลอดเส้นทาง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญ และตัวเราเองต้องตื่นตัวกับการป้องกันตัวเอง ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย และควรเปลี่ยนหน้ากากให้บ่อยขึ้น ล้างมือด้วยสเปรย์แอลกอฮอล์ทุกครั้งที่หยิบจับ หรือสัมผัสกับสิ่งของในพื้นที่สาธารณะ
  • ความแออัด เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องปกติของเมืองหลวงไปซะแล้ว ต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมาว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราอาจจะพอกำหนดเวลาในการเดินทางของตัวเองได้ ถ้าเราเผื่อเวลาขึ้นอีกสักหน่อย และเลือกรอบการเดินทางที่ไม่มีผู้คนแออัดมากนัก อาจจะทำให้การเดินทางของเรานั้นราบรื่นมากยิ่งขึ้น
  • ฝุ่น PM 2.5 แม้ว่าช่วงนี้ฝุ่นจะเบาบางลง และผ่านพ้นช่วงหน้าหนาวไปแล้ว เราก็ยังคงต้องให้ความสำคัญกับฝุ่น PM 2.5 ให้มากขึ้นในทุกๆ วัน เพราะด้วยสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของผู้คนที่มีโอกาสทำให้ฝุ่นพิษกลับมาระบาดหนักอีกครั้ง เราควรจะเช็กสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และถ้าให้ดีก็ควรงดทำกิจกรรมกลางแจ้งไปสักระยะเวลาหนึ่ง น่าจะเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพของเราในตอนนี้ อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย N95 สำหรับกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก และไม่ควรใส่หน้ากากเดิมๆ ซ้ำๆ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นลดน้อยลง
  • ความสัมพันธ์ในครอบครัว ชีวิตคนเมืองอาจส่งผลเสียในเรื่องความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เพราะไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมืองนี้เองทำให้พูดคุยกันน้อยลง เพราะไม่มีเวลา ต่างคนต่างทำงานและใช้ชีวิต กลับถึงบ้านก็มืดค่ำ เช้าก็แยกย้ายกันไปทำงาน นี่จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทุกคนต้องหันกลับมาใส่ใจตัวเองและคนรอบข้างให้มากขึ้น
  • ภาวะทางอารมณ์และจิตใจ เรื่องสุขภาพกายเราก็ต้องดูแล แต่เรื่องสุขภาพจิต อันนี้ต้องให้ความสำคัญมากๆ เลย อย่างกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขก็ออกมาบอกว่า ในปี 2566 พบผู้ป่วยอายุมากกว่า 15 ปี ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นไปอีก นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนให้ทุกคนกลับมาสนใจและใส่ใจกับสิ่งรอบข้าง ที่อาจทำให้เรามีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า โรคแพนิค และโรคกลัวการเข้าสังคมแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
  • โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว สิ่งที่เป็นหนึ่งในโรคที่น่าจับตามองเพราะมีความอันตรายถึงชีวิต คือ ฮีทสโตรก ด้วยอุณหภูมิในประเทศไทยที่มีความร้อนสูงกว่าปกติ อาจส่งผลทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อได้ ดังนั้นช่วงเวลาที่อากาศร้อนสูง ไม่ควรเดินกลางแจ้งโดยไม่มีอุปกรณ์กันแสงแดด งดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรสวมหมวก หรือเลือกใช้ร่มกันแดดทุกครั้งที่ต้องออกจากอาคาร
  • อหิวาตกโรค การให้ความสำคัญกับอาหารการกินและสุขลักษณะในการขับถ่าย เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะในหน้าร้อนแบบนี้ สุขลักษณะของอาหารที่เรากินเข้าไป อาจจะต้องพิจารณากันสักนิดนึง พยายามกินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือบ่อยๆ งดกินของดิบ ของดอง ซึ่งมีโอกาสที่จะมีเชื้อแบคทีเรียปะปนอยู่ กินเข้าไปอาจจะเป็นอันตราย ท้องเสีย ท้องร่วงได้

แม้ว่าชีวิตในเมืองจะแสนวุ่นวาย แต่เราก็สามารถใช้ชีวิตด้วยไลฟ์สไตล์ที่เป็นเราได้ สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง เราขอแนะนำให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพ เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเรา ถ้าหากพบความผิดปกติเร็ว เราจะได้เข้าสู่ขั้นตอนการรักษาได้อย่างทันท่วงที ถ้าหากเราสุขภาพแข็งแรงดีก็จะเป็นสิ่งที่การันตีได้ว่า เราจะดูแลสุขภาพของเราให้ดีขึ้นไปอีกได้อย่างไรบ้าง

สนใจ แพ็กเกจตรวจสุขภาพ คลิก!
-->