เคลียใจ! ทำไมคนรุ่นใหม่ไม่อยากมีลูก

ว่าด้วยเรื่องของการมีลูก ก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งถ้าดูจากข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ปี 2565 เขาบอกว่าคนไทยคลอดลูกเพียง 1.08 คนต่อ 1 ครอบครัว ในขณะที่ทั่วโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 2.3 คน เลยทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมคนรุ่นใหม่ถึงไม่ค่อยอยากมีลูกกัน



มีลูกหนึ่งคน ต้องเตรียมความพร้อมกี่เรื่อง
เป็นคำถามที่เราถาม 10 คน ก็คงได้ 10 คำตอบ แต่สิ่งที่หนีไม่พ้นคงเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัวกับการเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ไม่ต้องรอจนลูกคลอด แต่แค่วินาทีที่รู้ว่าท้อง ก็ต้องเริ่มวางแผนชีวิตใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน ภาระค่าใช้จ่ายที่กำลังจะมา ซึ่งอย่างหลังนี่ดูจะเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจไม่น้อยเลย เราไปอ่านเจอข้อมูลจากเพจความลับของเงิน ที่เขาได้รวบรวมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการมีลูก 1 คนแบบคร่าวๆ ตั้งแต่เกิดไปจนจบมหาวิทยาลัย โดยเขาแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ เลี้ยงแบบพอเพียง (ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1.6 ล้านบาท) เลี้ยงแบบปานกลาง (ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 7.8 ล้านบาท) และเลี้ยงแบบหรูหรา (ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 36 ล้านบาท) ทั้งนี้ ตัวเลขนี้ยังไม่รวมพวกค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเรียนพิเศษ ค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ขอขอบคุณภาพจากเพจ : ความลับของเงิน

มองมุมกลับ สลับมุมมอง เมื่อคนรุ่นใหม่ไม่คิดอยากมีลูก
ต้องยอมรับว่าเราทุกคนต่างเกิดมาในครอบครัวที่มีความแตกต่างกันออกไป ทั้งความพร้อมของทางครอบครัว การศึกษา และความเป็นอยู่ ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่เป็นตัวกำหนดและตัวชี้วัดให้คนรุ่นใหม่ ตัดใจไม่อยากมีลูก
 
  • เงินคือปัจจัยที่สำคัญ การจะมีลูกหนึ่งคน ถือเป็นเรื่องที่ใหญ่มากสำหรับครอบครัวๆ หนึ่ง เพราะเราต้องพร้อมทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์ เราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า การมีลูกหนึ่งคนเราต้องมีภาระค่าใช้จ่ายที่มหาศาลขนาดไหน ในขณะที่เศรษฐกิจในปัจจุบันกลับสวนทางกับรายได้ ที่อาจจะไม่เพียงพอในการใช้จ่ายสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นในระยะยาว หากเราจะต้องมีลูก 1 คน
  • คุณภาพชีวิตของลูก เราทุกคนต่างคาดหวังให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การเลือกสถานศึกษาให้ลูก จึงเป็นสิ่งสำคัญ และเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘เงิน’ คือปัจจัยสำคัญที่เราต้องจ่าย ซึ่งก็เหมือนเรากำลังเลือกสังคมที่ดีให้กับลูกของเรา
  • ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คุณพ่อ คุณแม่ในยุคนี้เป็นมนุษย์ออฟฟิศ ต้องทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว ซึ่งถ้าหากเรามีลูก 24 ชั่วโมงของเรา ก็คงหมดไปกับ การไปรับและไปส่งลูกไปโรงเรียน ไปเรียนพิเศษ พาไปกินข้าว และพาไปเที่ยวพักผ่อนตามวาระโอกาสต่างๆ ดังนั้นหากเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นมนุษย์ออฟฟิศ คงจะเหนื่อยมากในการจัดสรรเวลาให้ลงตัวในแต่ละวัน หลายคนจึงเลือกที่จะไม่มีลูกเพราะมองว่าเป็นภาระในระยะยาว
  • สุขภาพของคุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ บางคนไม่พร้อมมีลูก เพราะในช่วงวัย 25-30 ปี อยู่ในช่วงวัยที่เพิ่งเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว เก็บเงิน สร้างครอบครัว และอาจจะพร้อมจะมีลูกอีกครึ่งหนึ่งตอนอายุ 35-40 ปี ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในเรื่องอายุที่มาก และปัญหาสุขภาพที่อาจจะเป็นความเสี่ยง หรือถ้าหากอยากเลือกมีลูกด้วยเทคโนโลยีต่างๆ อย่างเด็กหลอดแก้ว ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร
  • รัฐสวัสดิการคืออีกหนึ่งตัวแปร คนรุ่นใหม่หลายๆ ครอบครัว มีความกังวลถึงรัฐสวัสดิการที่ครอบคลุมถึงลูกของเขาที่กำลังจะเกิดมา หลายคนมีเหตุผลที่จำเป็นเพราะไม่พร้อมที่จะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง จึงต้องหวังพึ่งรัฐสวัสดิการที่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี แต่ประเทศไทยของเรายังไม่มีรัฐสวัสดิการที่ดีพอให้หลายๆ คน ที่คิดอยากจะมีลูก และเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่ให้ความสำคัญกับเด็กแรกเกิด และมีนโยบายที่จะสนับสนุนให้คนในประเทศมีลูกให้มากขึ้น
  • ความปลอดภัยในเด็ก ปัจจุบันเราคงเห็นข่าวเด็กโดนกระทำชำเรา หรือ ความไม่ปลอดภัยในมิติอื่นๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่หลายคนกังวลและยอมรับไม่ได้ แน่นอนว่าเราคงไม่อยากให้ลูกของเราไปเผชิญความเสี่ยงเหล่านี้หรอก ซึ่งนี่ก็อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายๆ คน เลือกที่จะไม่มีลูกเพื่อเลี่ยงเผชิญกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น

แม้ว่าเหล่านี้จะเป็นเหตุผลที่ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่อยากมีลูก แต่ก็มีอีกหลายครอบครัวที่มีความพร้อมและอยากมีลูก แต่อาจเกิดปัญหาสุขภาพเพราะมีลูกยากของฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ซึ่งมีความจำเป็นต้องพูดคุยและเข้ารับการรักษา โดยสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านแม่และเด็ก ทั้งนี้เราขอแนะนำให้ทุกครอบครัวให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพ เพื่อวางแผนถึงการเตรียมความพร้อมในการมีลูกในอนาคต

สนใจ แพ็กเกจตรวจสุขภาพ คลิก!
-->