จริงๆ แล้วเราควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อยแค่ไหน?

พอมาลองคิดดูเล่นๆ ว่าวันๆ หนึ่งเราใช้ชีวิตอยู่ที่ไหนบ้าง ก็พบว่า “เตียง” เป็นที่ที่เราใช้เวลาไปแล้วกว่า 1 ใน 3 ของชีวิตประจำวัน นี่แค่เวลาหลับนะ ยังไม่นับเวลาที่นอนกลิ้งเล่นบนเตียง ไถโทรศัพท์ ดูซีรี่ และกิจกรรมอื่นๆ ทีสรรหามาทำบนเตียงได้ ว่าแต่เตียงที่เรานั่งๆ นอนๆ อยู่นี่มันสะอาดแค่ไหนกัน? บอกเลยว่าบนผ้าปูเตียงเรียบๆ นี้มีอะไรมากกว่าที่เห็นแน่นอน



สิ่งที่เราทิ้งไว้บนผ้าปูที่นอน 
ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังจากสหรัฐอเมริกา (American Academy of Dermatology) อธิบายว่ามนุษย์เราโดยปกติจะผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วประมาณ 30,000 - 40,000 เซลล์ทุกวัน เพราะเราใช้เวลาอยู่บนเตียงทั้งนอน ทั้งขยับ ทีนี้ก็เดาได้ไม่ยากว่าเซลล์ผิวที่ตายมันก็จะต้องหลุดร่วงอยู่บนผ้าปูเตียงที่ผิวเราสัมผัสนั่นแหละ และแน่นอนว่าเมื่อมีเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ก็ย่อมมีไรฝุ่นตามมาติดๆ 

มีเศษเซลล์ผิวหนัง ก็ต้องมีไรฝุ่น
“ไรฝุ่น” คือสิ่งมีชีวิตตัวจิ๋วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ถ้าลองส่องกล้องจุลทรรศน์ดูจะเห็นว่ามันเป็นตัวใสๆ มี 8 ขา อาหารของพวกมันก็คือเศษเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วของมนุษย์เรานี่แหละ ฉะนั้นผ้าปูเตียงกับปลอกหมอนที่ยังไม่ได้ซัก ก็คือแหล่งอาหารหรือไลน์บุฟเฟ่ต์ดีๆ ของพวกมันนี่เอง

ของเหลวที่ซึมออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ
นอกจากนี้ยังมีของเหลวจากร่างกายอย่างเหงื่อ น้ำลายยืด หรือน้ำมันจากผิวหนัง ยิ่งใครที่ชอบนอนแบบเปลือยๆ ก็ยิ่งทำให้ผ้าปูเตียงสกปรกง่ายและเร็วขึ้น หรือใครที่อนุญาตให้สัตว์เลี้ยงขึ้นมาเกลือกกลิ้งบนเตียง ก็ยิ่งมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนได้มากขึ้น จากบทสัมภาษณ์ของ Michael Schmidt ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาและภูมิคุ้มกันจาก Medical University of South Carolina บนนิตยสาร SELF บอกว่าการที่เรานอนอยู่บนผ้าปูเตียงที่ไม่ได้ซักมานานเท่าไหร่ ก็ยิ่งเหมือนนอนอยู่ใน “ถังส้วมซึม” ที่เราสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง แค่คิดก็ขนลุกแล้ว!

​
วายร้ายที่ทำให้ป่วยได้
ไรฝุ่นและแบคทีเรียที่สะสมอยู่บนผ้าปูที่นอนอาจเป็นหนึ่งในตัวการที่อาจทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง พญ.ศิรภัสสร ศรพิพัฒน์พงศ์ โรงพยาบาลพญาไท 3 บอกว่าปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ถึงเกือบ 20% ซึ่งสารก่อภูมิแพ้ที่พบมากที่สุดคือ “ไรฝุ่น” นั่นเอง ซึ่งคนที่เป็นภูมิแพ้ก็จะมีอาการจาม น้ำมูกไหล คันตา นอกจากนี้ความสกปรกบนผ้าปูที่นอนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการคันบนผิวหนัง หรือปัญหาสิวอีกได้ด้วย ควรซักผ้าปูที่นอนบ่อยแค่ไหน?
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะนำว่าควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนทุกอาทิตย์ เพื่อสุขอนามัยที่ดี แน่นอนว่านี่ไม่ใช่กฎเหล็กตายตัว เพราะสำหรับบางคนควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อยกว่าอาทิตย์ละครั้ง ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ลองเช็คดูซิว่ามีข้อไหนที่ตรงกับคุณบ้าง 

• ไม่ใส่เสื้อผ้านอน - คนที่ชอบนอนล่อนจ้อน เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจะมีโอกาสหลุดและกระจัดกระจายบนที่นอนมากกว่าคนที่สวมใส่ชุดนอนเวลานอน 
• ไม่อาบน้ำก่อนนอน - เพราะการอาบน้ำก่อนเข้านอนช่วยชำระล้างเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วได้ส่วนหนึ่ง
• นอนดิ้นหรือเปล่า - คนนอนดิ้นมีโอกาสที่เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจะหลุดออกมาได้มากกว่าคนที่หรือนอนหลับแบบนิ่งๆ หรือหลับเป็นตาย
• พาสัตว์เลี้ยงมานอนบนเตียง - เตียงที่มีสัตว์เลี้ยงมานอนด้วยมีโอกาสที่จะปนเปื้อนสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่า 
• นอนน้ำลายยืด - อย่าลืมว่าปลอกหมอนเป็นส่วนที่สัมผัสหน้าของเราทุกวัน ถ้าปลอกหมอนเปื้อนน้ำลายแล้วควรถอดเปลี่ยนเป็นอันใหม่จะดีกว่า

นอกจากสุขอนามัยที่ดีแล้ว ผ้าปูเตียงกับปลอกหมอนที่สะอาดและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ยังช่วยให้หลับสบายขึ้นอีกด้วย ใครที่ไม่มีเวลาซักผ้าปูเตียงทุกอาทิตย์อาจซื้อผ้าปูเตียงตุนไว้หลายชุดสำหรับสับเปลี่ยน การซักผ้าปูเตียงและปลอกหมอนควรซักด้วยโหมดน้ำร้อนอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส นาน 15-30 นาที หรือใช้เครื่องอบผ้าด้วยความร้อนเพื่อกำจัดไรฝุ่นตัวร้ายและไข่ของมัน