ซุ่มซ่ามจนเขียวตามตัว ตกลงแล้วประคบแบบไหนดีกว่ากัน?


เราเชื่อว่าหลายคนต้องเคยเป็น อยู่ๆ ตามร่างกายก็เกิดรอยเขียวช้ำขึ้นมา บางครั้งไม่รู้ตัวว่าไปเดินชนอะไรตอนไหนมา มารู้ตัวอีกทีก็เริ่มรู้สึกเจ็บ หรือเกิดรอยเขียวบนตัวซะแล้ว แต่จะทำยังไงให้รอยนั้นหายไปเร็วขึ้น วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาบอก



รอยฟกช้ำ เกิดจากอะไร? 
จริงๆ แล้วรอยฟกช้ำที่เกิดขึ้นบนผิวหนังนั้นเกิดจากการที่ผิวหนังถูกกระแทกทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ชั้นผิวหนังแตก และมีเลือดออกในชั้นผิวหนัง จึงทำให้มีสีออกแดงเป็นจ้ำๆ และหากนานเข้าสีของรอยช้ำจะเปลี่ยนเป็นสีม่วง สีออกคล้ำ กระทั่งรอยช้ำเป็นจ้ำสีเขียวหรือสีเหลืองตามมานั่นเอง

เมื่อไหร่ประคบเย็น...เมื่อไหร่ประคบร้อน
ปกติแล้วการรักษาด้วยวิธีการประคบนั้น ไม่ว่าจะเป็นการประคบร้อนหรือประคบเย็น ล้วนมีประโยชน์ในทางการรักษาด้วยกันทั้งคู่ แต่จะต่างกันก็ตรงระยะเวลาที่จะเลือกใช้ เพราะตามหลักแล้ว หลังจากเกิดเหตุทันทีไปจนถึง 48 ชั่วโมง ควรเลือกการประคบเย็น เพื่อบรรเทาอาการอักเสบที่เกิดขึ้น และยังเป็นการช่วยให้หลอดเลือดหดตัวและเลือดที่ไหลออกจากเส้นเลือดฝอยที่ฉีกขาดลดน้อยลง ส่งผลให้อาการอักเสบลดน้อยลงตามไปด้วย 

จากนั้นเมื่อพ้น 48 ชั่วโมงไปแล้ว ให้เปลี่ยนมาใช้วิธีประคบร้อน โดยการประคบครั้งละ 10 – 20 นาที เพื่อช่วยให้เลือดมีการไหลเวียนได้ดี ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้เร็วและหายจากการบาดเจ็บได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดสีฟกช้ำที่เกิดขึ้นให้จางลงในที่สุด

อยากหายเร็ว...การเลือกทานอาหารช่วยได้
นอกจากการรักษาด้วยวิธีภายนอกแล้ว อาหารก็มีส่วนช่วยได้ โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินเค ไม่ว่าจะเป็น ผักคะน้า บล็อคโคลี ถั่วเหลือง ผักกาดหอม สตรอเบอร์รี่ ผักเหล่านี้จะทำหน้าที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็วขึ้น รวมไปถึงอาหารที่มีส่วนผสมของธาตุสังกะสี (Zinc) เช่น ผักโขม เมล็ดฟักทอง และพืชตระกูลถั่ว เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาซ่อมแซมให้ร่างกายกลับสู่สภาพปกติให้เร็วขึ้นอีกด้วย

รู้วิธีประคบฟื้นฟูแล้วคราวต่อไปก็ไม่ต้องกังวลกับรอยช้ำแล้วล่ะ!

 

 

-->