ตับมีหน้าที่สำคัญ อย่าปล่อยให้ ”ตับพัง” ไม่รู้ตัว

“รักแท้รักที่อะไร ตับไตไส้พุง” เนื้อเพลงเขาก็บอกอยู่ว่า “ตับ” อาจจะเป็นรักแท้ เพราะฉะนั้นก็ต้องดูแลกันหน่อย ยังมีข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เปิดเผยว่าปัจจุบัน คนไทยป่วยเป็น มะเร็งตับ อันดับ 1 ด้วยแล้ว ก็ยิ่งต้องดูแลให้ดีไปอีก แต่จะให้ดูแลได้ยังไง ในเมื่อเป็นอวัยวะที่อยู่ภายในร่างกาย ใช่ว่าจะมองเห็นกันได้ง่ายๆ ซะที่ไหน 



“ตับ” กับหน้าที่สำคัญในร่างกาย
ตับเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุด ที่ทำหน้าที่สำคัญหลายอย่างในร่างกาย จนแทบจะเป็นตัวเอกเลยก็ว่าได้ เพราะตับไม่เพียงแต่จะสร้างน้ำดีที่ช่วยย่อยไขมันแล้ว ยังมีบทบาทในการสร้างโปรตีนเพื่อเป็นพลังงานแก่ร่างกาย เพื่อช่วยการแข็งตัวของเลือด รวมทั้งกำจัดสารพิษจากยาและอาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละวัน และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ในการเก็บสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่าง วิตามิน B12 , A , D , E และ K อีกด้วย

“ตับป่วย” ด้วยเหตุอะไร
โดยปกติแล้ว ตับ เป็นอวัยวะที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย ทั้งยังมีความสามารถพิเศษในการซ่อมแซมตัวเองได้อีกด้วย แต่ถึงจะรับบทคนอึด ถึก ทน แค่ไหน แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้ตับป่วยได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น...
  • ไขมันพอกตับ สำหรับใครที่ยืนหนึ่งเรื่องของมัน ของทอด ต้องระวังไว้เลย เพราะการกินอาหารที่มีไขมันมากเกินไป จะทำให้ไขมันเข้าไปอุดตัน สะสมที่ตับ จนตับเสื่อมสภาพ เกิดพังผืดยึดเกาะตามผิวของตับทำให้ตับแข็ง
  • แอลกอฮอล์ นักดื่มตัวยงคงต้องเบาบ้างแล้ว เพราะถ้าหากดื่มในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้ตับต้องรับบทหนักจนไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองและคัดกรองสารพิษได้หมด
  • โรคที่เกี่ยวกับตับ เช่น นิ่วในถุงน้ำดี ไวรัสตับอักเสบ A และ B โรคเรื้อรังต่างๆ อย่างโรคหัวใจ เบาหวาน ล้วนแต่ส่งกระทบต่อการทำงานของตับได้
  • ยาบำรุง หรือ สมุนไพรต่างๆ ที่จะว่าไปก็อาจเปนดาบสองคมได้ เพราะแม้จะมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย แต่ก็แฝงไว้ด้วยสารพิษซึ่งจะไปสะสมที่ตับทำให้ตับทำงานหนักกว่าเดิม
  • ออกกำลังกายน้อยเกินไป หรือกลุ่มที่ไม่ค่อยชอบขยับร่างกาย ต้องระวังว่าร่างกายจะไม่สามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ จนกลายเป็นไขมันไปสะสมที่ตับ

เมื่อตับเกิดอาการบกพร่องก็จะสร้างเซลล์ออกมาซ่อมแซมตัวเองมากเกินไปจนกลายเป็นพังผืด เข้าสู่การเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อ ทำให้เมื่อถึงเวลาที่ตับต้องทำงานไม่ว่าจะการสร้างน้ำดี หรือการกำจัดสารพิษก็ทำได้น้อยลง จนนำไปสู่ตับวายเฉียบพลันได้ในที่สุด



“ตับพัง” สังเกตยังไง
เพราะตับเป็นอวัยวะที่อยู่ภายในร่างกาย ดังนั้นการที่จะรู้ได้ว่าตับยังดีอยู่ไหม จึงต้องอาศัยการสังเกตอาการของตัวเอง โดยดูว่ามีอาการเหล่านี้บ้างหรือไม่
  • อ่อนเพลียง่าย เหนื่อยง่าย
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ 
  • เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
  • ตาเหลือง ตัวเหลือง
  • ภูมิต้านทานต่ำ จนทำให้เจ็บป่วยง่าย หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงกว่าปกติ

โดยการการดูแลรักษาตับ ก็ไม่ต่างอะไรกับการดูแลสุขภาพโดยทั่วไป คือ กินอาหารให้ครบห้าหมู่ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม (หรือถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเถอะ) และควรมีการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีประวัติป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับตับ หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคอ้วน เป็นต้น สนใจ แพ็กเกจตรวจสุขภาพ คลิก!
-->