ปวดท้องแบบไหน บอกโรคอะไรได้บ้าง

“กบเอยทำไมจึงร้อง ที่กบมันร้องเพราะว่าท้องมันปวด” แต่ถึงเราจะไม่ใช่กบก็ปวดท้องได้เหมือนกัน เผลอๆ จะมากกว่าด้วยซ้ำ เห็นเป็นอาการป่วยที่สุดแสนจะเบสิคแบบนี้ก็เถอะ เพราะอาการปวดท้องสามารถเกิดได้หลายตำแหน่งช่วงท้อง แถมยังปวดได้หลายแบบ ทั้งปวดบีบ ปวดหน่วง ปวดๆ หายๆ  และอีกสารพัดอาการปวดที่เหนื่อยจะเดา เลยต้องไปหาคำตอบว่าปวดท้องแบบไหน บอกโรคอะไรกันบ้าง



อาการแบบนี้! เสี่ยง…มะเร็งกระเพาะอาหาร
ถึงแม้ว่าในช่วงแรกนั้นอาจจะยังไม่ค่อยมีอาการแสดงออกมาให้เห็น แต่พอปล่อยไว้นานเข้า ก็จะเริ่มมีอาการปวดท้องที่คล้ายกับโรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือโรคไวรัสลงกระเพาะ เพราะปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร คือการติดเชื้อ H.Pylori ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารหรือโรคกระเพาะ ทำให้อาหารไม่ย่อย และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือการกินอาหารที่มีสารก่อมะเร็งเป็นประจำติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เช่น อาหารแปรรูป และอาหารปิ้งย่างนั่นเอง จุดสังเกตคือจะลักษณะอาการ ดังนี้
  • อาหารไม่ย่อย ไม่สบายท้อง
  • ท้องอืดหลังกินอาหาร
  • คลื่นไส้จนไม่อยากอาหาร
  • แสบร้อนบริเวณหน้าอก

ซึ่งในการรักษาจะต้องทำการตรวจอย่างละเอียดด้วยการกลืนแป้งสารทึบแสงแล้วทำการเอ็กซเรย์ เพื่อให้เห็นความผิดปกติภายในช่องท้อง หรืออาจต้องทำการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนต้น และเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อให้เห็นตำแหน่งของโรคและการกระจายของโรคได้อย่างละเอียดมากขึ้น

อาการแบบนี้! เสี่ยง…มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
นอกจากกรรมพันธุ์จะเป็นปัจจัยหนึ่งของการเกิดโรคแล้ว การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง โดยเฉพาะไขมันและน้ำตาลก็เป็นสาเหตุสำคัญด้วยเหมือนกัน ซึ่งคนที่เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักนั้นจะลักษณะอาการคือ
  • ปวดท้องเรื้อรัง
  • ท้องอืดเรื้อรัง อาหารไม่ย่อย
  • ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด ถ่ายดำ
  • น้ำหนักลดผิดปกติ อ่อนเพลีย
  • คลำพบก้อนในท้อง ท้องผูก หรือท้องผูกสลับท้องเสีย

ซึ่งหากเกิดอาการดังกล่าวจะต้องตรวจอุจจาระเพื่อหาการปนของเลือด หรือการส่องกล้องตรวจทางเดินอาหารส่วนปลาย และการตรวจทางภาพรังสีวินิจฉัย

อาการแบบนี้! เสี่ยง…มะเร็งตับอ่อน
แม้ว่ามะเร็งตับอ่อนจะเป็นมะเร็งที่ไม่ได้เจอได้บ่อย เนื่องจากตับอ่อนเป็นอวัยวะที่อยู่หลังเยื่อบุช่องท้อง ทำให้ยากต่อการตรวจวินิจฉัยโรค และอาการมักจะแสดงก็เมื่อมะเร็งลุกลามแล้ว ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคที่แน่ชัด แต่ที่รู้ได้แน่ๆ ก็คือพฤติกรรมการสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสัตว์ในปริมาณสูง รวมถึงความผิดปกติทางพันธุกรรมก็อาจเป็นปัจจัยเสริม ที่ทำให้มีอาการเหล่านี้ได้เหมือนกัน
  • ปวดท้อง ท้องอืด อาหารไม่ย่อย
  • ท้องเสีย
  • เบื่ออาหาร ตัวเหลือง หรือไม่มีอาการเลยก็ได้

และถึงแม้ว่าการวินิจฉัยโรคอาจทำได้ยาก แต่แพทย์ก็สามารถวินิจฉัยได้จากการซักประวัติ พิจารณาอาการ ร่วมกับการตรวจร่างกายและตับอ่อน ด้วยการอัลตร้าซาวด์ และทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์

อาการแบบนี้! เสี่ยง…แผลในกระเพาะอาหาร
สาเหตุหลักของโรคนี้เกิดจากกรดและน้ำย่อยที่หลั่งออกมาทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหาร หรืออาจเกิดร่วมกับปัจจัยเสริมอื่นๆ เช่น การกินยาแอสไพริน ยารักษาโรคกระดูกและข้ออักเสบ สูบบุหรี่ ความเครียด การกินอาหารเผ็ดจัด และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะไม่ได้กลายเป็นมะเร็ง ถึงแม้จะเป็นๆ หายๆ นานเป็นปีก็ตาม นอกจากว่าจะเป็นแผลชนิดที่เกิดจากโรคมะเร็งของกระเพาะอาหารตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งจะทำให้มีอาการ ดังนี้
  • อาหารไม่ย่อย แน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือหน้าท้องช่วงบน พบบ่อยแต่มักเกิดเฉพาะบางช่วงของวัน เนื่องจากมักเป็นเมื่อท้องว่าง
  • ปวดแน่นท้อง มักจะเป็นๆ หายๆ โดยมีช่วงเว้นที่ปลอดอาการค่อนข้างนาน เช่น ปวดอยู่ 1-2 สัปดาห์ แล้วหายไปหลายเดือนจึงกลับมาปวดแน่นท้องอีก
  • แน่นท้องกลางดึกหลังจากที่หลับไปแล้ว มักมีอาการเรื้อรังเป็นปี

นอกจากนี้ถ้าเกิดมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปวดท้องรุนแรง เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดลงมาก ถ่ายเป็นเลือดสดหรือสีดำเหลว ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ซึ่งปัจจุบันมีการตรวจวินิจฉัยที่แสดงผลได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเอกซเรย์กลืนสารทึบรังสี และการส่องกล้องตรวจในกระเพาะอาหาร ที่สามารถตรวจพบแผลเพื่อเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อในกระเพาะอาหารนำไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง และตรวจหาเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคแผลในกระเพาะอาหารได้

อาการแบบนี้! เสี่ยง…ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
โรคนี้มีที่มาจากการที่ตับอ่อนอักเสบอย่างต่อเนื่อง หรือการอักเสบที่รักษาไม่หาย เนื่องจากยังไม่ได้จัดการที่ต้นเหตุ เช่น ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เลิก นำมาซึ่งอาการ ดังนี้
  • ปวดท้องเรื้อรัง แบบเป็นๆ หายๆ
  • ปวดตลอดเวลา หรือปวดเป็นบางครั้ง
  • ถ่ายเป็นสีเทา หรือซีดๆ อาจมีไขมันออกด้วย น้ำหนักตัวลดลง เป็นต้น
  • ผอมลงต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่อาจกินได้ตามปกติ เนื่องจากอาหารดูดซึมไม่ได้เพราะขาดน้ำย่อย เป็นโรคขาดอาหาร อ่อนเพลีย 

การจะหายจากอาการและโรคนี้ได้ ผู้ป่วยต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารไขมันสูง รวมทั้งต้องระวังเรื่องการกินยาบางชนิดที่อาจมีผลข้างเคียงเป็นพิษต่อเซลล์ตับอ่อน เช่น กินหรือฉีดวิตามินชนิดที่ละลายในไขมัน กินยาแก้ปวดประจำเดือนเป็นประจำ ยาคลายเครียด ซึ่งโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังนี้เป็นความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารที่รุนแรง ดังนั้นถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้นควรพบแพทย์เฉพาะทางโดยเร็วที่สุดจะดีกว่า

อาการแบบนี้! เสี่ยง…ถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรัง
ถุงน้ำดีอักเสบเกิดจากนิ่วอุดตันหรือมีการติดเชื้อในท่อถุงน้ำดี จนทำให้น้ำดีไหลผ่านไปยังลำไส้เล็กไม่ได้ และเมื่อน้ำดีอยู่ในถุงน้ำดีมากเกินไปก็จะยิ่งเพิ่มแรงดันภายในถุงน้ำดี จนบวมและอักเสบ ตามมาด้วยอาการปวดท้องเรื้อรัง และเป็นๆ หายๆ ซึ่งเป็นอาการที่แยกจากภาวะปวดท้องโดยสาเหตุอื่นๆ ได้ยาก สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดถุงน้ำดี ซึ่งมักเป็นการผ่าตัดหลังควบคุมการติดเชื้อไปแล้ว โดยจะให้ยาปฏิชีวนะและรักษาประคับประคองตามอาการ เช่น กินยาแก้ปวด ยาบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน  และการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์

เป็นยังไงกันบ้าง แค่ดูแต่ละอาการก็พาลให้ท้องจะปวดขึ้นมาตะหงิดๆ กันแล้วใช่มั้ยล่ะ ใครที่คิดว่าเริ่มมีอาการหรือสงสัยว่าท้องจะปวดแบบสุ่มเสี่ยง การอัลตร้าซาวด์ช่องท้องก็อาจจะช่วยวิเคราะห์ได้ดีขึ้น

สนใจแพ็กเกจ อัลตร้าซาวด์ช่องท้อง คลิก!
-->