พฤติกรรม Unhealthy ของมนุษย์ออฟฟิศสายบ้างาน ไม่อยากร่างพัง...งานนี้ต้องมีตัวช่วย!


ชั่วโมงนี้ใครที่ยังมีงานทำอยู่ บอกเลยว่าถ้าไม่ใช่เพราะทำบุญมาดีก็ต้องเป็นเพราะความทุ่มเทในการทำงานให้กับองค์กรนี่แหละ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณควรจะต้องทำควบคู่ไปกับการ achieve เป้าหมายต่างๆ ที่ตั้งไว้ นั่นก็คือการดูแลสุขภาพของตัวคุณเอง เพราะถ้าร่างพัง ก็มีโอกาสที่งานของคุณจะพังไม่เป็นท่าตามมาเป็นโดมิโนแอฟเฟคท์อย่างแน่นอน 



และนี่คือพฤติกรรมผิดๆ ของมนุษย์ออฟฟิศสายบ้างานส่วนใหญ่ ที่ละเลยไม่ให้ความสำคัญ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ !!!! 




นอนน้อย...แต่นอนนะ
จริงๆ นี่อาจไม่ได้เป็นเพียงพฤติกรรมของมนุษย์ออฟฟิศเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงสายฟรีแลนซ์ด้วย ที่ต้องนั่งปั่นงานกันดึกดื่น เพราะต้องส่งงานลูกค้า ต้องรีบปั่นพรีเซนต์โปรเจค หรือทำรีพอร์ตบัดเจท เพราะพรุ่งนี้ต้องใช้ประชุมกับเจ้านายแต่เช้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพลิดเพลิน หรือเคร่งเครียดจนทำให้จากที่ควรนอนวันละ 6-8 ชั่วโมงก็หดลงมาเรื่อยๆ จนบางทีเหลือไม่ถึง 2 ชั่วโมงต่อวันด้วยซ้ำ แถมรุ่งขึ้นก็ยังต้องตื่นเช้าเพื่อเตรียมตัวไปประชุมอีก ใครที่กำลังมีชีวิตวนลูปแบบนี้ ระวังไว้ให้ดี เพราะคุณกำลังสร้างระเบิดเวลาทำร้ายร่างกายตัวเองโดยไม่รู้ตัว

ซึ่งมีผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ทำการศึกษาคนทำงานจำนวน 7,480 คน พบว่ากว่า 23.2% นั้นเป็นกลุ่มคนที่มีภาวะนอนไม่หลับ พักผ่อนไม่พอ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงได้มากถึง 11.3 วันต่อเดือนเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับกับผลการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดของอังกฤษที่ศึกษาเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานกับระยะเวลาและคุณภาพของการนอน ซึ่งเขาได้ทำการศึกษาคนในวัยทำงานจำนวน 1,000 คน พบว่าคนที่นอนหลับไม่เพียงพอ หรือมีปัญหาในการนอนจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องของความจำ และความครีเอทีฟต่างๆ 

_____________

“ในคืนที่คุณนอนหลับเต็มอิ่ม เมื่อตื่นมาคุณจะสามารถทำงานได้เสร็จและมีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่มากกว่า เมื่อเทียบกับคืนที่คุณนอนหลับไม่เพียงพอ”
ดร.แมทธิว คาร์เตอร์, ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ

_____________
 



ประชุมทั้งวัน...ตกเย็นเสียงหาย

พอเตรียมข้อมูล พรีเซนต์ทุกอย่างเสร็จสรรพ สิ่งต่อไปก็คือพุ่งตัวเข้าห้องประชุม บางคนใช้ชีวิตอยู่ในนั้นตั้งแต่เช้ายันเย็น ดีไม่ดีถึงดึกถึงดื่น ยิ่งถ้าคุณเป็นสายที่ต้องยืนพรีเซ็นต์ในเกือบทุกมีตติ้งด้วยแล้วล่ะก็ การที่คุณจะจบวันด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้งนั้นคงเป็นเรื่องที่คุ้นชิน แต่จริงๆ แล้วนั่นไม่ควรเป็นสิ่งที่คุณคุ้นชิน ไม่ว่าจะเป็นอาการหนียวคอ เหมือนมีกองทัพเสมหะ ทำให้ต้องกระแอมทุกครั้งที่จะต้องเอ่ยพูดอะไรออกไป ซึ่งก็พาลให้เสียภาพลักษณ์และบุคลิกภาพในการเป็นมือโปรฯ หรือพอพูดๆ อยู่เสียงเริ่มหาย คอเริ่มแห้ง อาการไอเริ่มบุก คราวนี้จะพรีเซ็นต์ต่อยังไงให้สมูทก็คงยาก 

ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์ได้เคยมีการทำการสำรวจในเรื่องของการใช้มีเดียโดยนักพูดสายการเงินระดับท็อปจำนวน 120 คน พบว่า “เสียง” ของผู้พูดมีส่วนสำคัญมากกว่า “เนื้อหา” ที่พูดถึง 2 เท่า นั่นแปลว่าไม่ว่าเนื้อหาที่เรากำลังพรีเซ็นต์จะน่าสนใจขนาดไหน ถ้าเสียงเราไม่น่าฟัง ไม่เคลียใส รู้สึกเหมือนมีเสมหะ ทำให้ต้องพูดไปไอไป มันก็คงจะทำให้พรีเซ็นต์ที่คุณเตรียมมาทั้งคืนล่มไม่เป็นท่าแน่ๆ หรือถ้าใครที่เป็นหน่วยแนวหน้าที่ต้องไปขายงานลูกค้า ขายไปกระแอมไป เสียบุคลิกกันไปอีก จะขายงานให้ผ่านก็คงยาก เพราะฉะนั้นนอกจากเรื่องของความสามารถแล้ว เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการใช้เสียงเยอะๆ โดยไม่ดูแล จนทำให้เสียงแหบแห้ง มีเสมหะ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
 

ไม่อยากพัง...คงถึงเวลาต้องหาตัวช่วย !
และในเมื่อพฤติกรรมบางอย่างมันปรับไม่ได้ เพราะด้วยอาชีพและความรับผิดชอบที่ค้ำคอ เช่น ถ้ามันจำเป็นต้องนอนดึกจริงๆ เพราะมีโปรเจ็คด่วน หรือมีประชุมแน่น ต้องใช้เสียงเยอะ หรือแม้แต่สายนักร้อง ดีเจ พิธีกรมือโปรฯ ที่ต้องใช้เสียงหนักๆ ในการทำมาหากิน งานนี้เราคงต้องหาตัวช่วย ว่าแล้วก็เลยเดินเข้าไปที่ร้านขายยา แล้วก็ไปเจอกับ NAC Long เม็ดฟู่ละลายเสมหะ บรรเทาอาการไอ ที่เป็นแบรนด์นำเข้าจากเยอรมัน ซึ่งเราคิดว่าเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่น่าสนใจ คือเราได้ยินโฆษณาเขามาซักพักแล้ว แต่ก็เพิ่งมีโอกาสได้ลองจริงๆ จังๆ สิ่งที่ชอบคือเขาเป็นเม็ดฟู่ที่ทานง่าย รสชาติดี สะดวกแค่วันละครั้งเอง จะกินเวลาไหนก็ได้ นี่คือเริ่ด เพราะตารางชีวิตก็แน่นอยู่แล้ว ถ้าต้องมาใช้เวลานานอีกคงต้องเซย์โนว แต่อันนี้คือดี ทุกอย่างสะดวกรวดเร็ว ลองนึกภาพตามนะ คือตื่นมาปุ๊บ ก็เอื้อมมือไปหยิบแก้ว เทน้ำใส่ลงไปครึ่งแก้ว แล้วก็เปิดหลอดหยิบมาหนึ่งเม็ด แล้วก็โยนตู้มลงไปได้เลย ระหว่างรอเม็ดละลายก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ทำธุระนู้นนี่ หันมาอีกทีเม็ดเขาก็ละลายหมดพอดี  ก็ยกแก้วดื่มไปเลย คือมันเหมาะกับชีวิตที่ต้องเร่งรีบกับทุกสิ่ง ที่ไม่ใช่แค่สะดวก แต่แพคเกจเขาก็คือพกพาง่ายมากกก ดีไม่ดีไซส์เล็กกว่าแท่งลิปสติกไปอี๊กกก ส่วนเรื่องของสรรพคุณก็อย่างที่บอก มันช่วยเคลียเสมหะในคอได้ดี คนที่ชอบทานพวกของทอดของมันแล้วมันจะเหมือนมีน้ำมันอยู่ในคอ หรือแม้แต่คนที่เป็นพวกภูมิแพ้กำเริบ ไซนัสต่างๆ ที่น้ำมูกมักจะลงไปที่คอ ทำให้มีความรู้สึกเหนียวคอเหมือนมีเสมหะนี่ต้องโดน

สรุปง่ายๆ คือเอาเป็นว่าใครที่ชอบมี มีเสมหะ เหนียวคอ นี่คือ Must-Have Essential Item ที่ต้องมีติดตัว แล้วชีวิตจะแฮปปี้ พรีเซ็นต์งานได้อย่างมั่นใจ ขายสิบ ผ่านสิบไมมีหักกันไปเลย ไปตามหามาลองกันได้ที่ร้านขายยาทั่วไป หรือจะเป็น Drug Store อย่าง Boots หรือ Watsons ก็มีเหมือนกัน ลองแล้วเป็นยังไงกันบ้าง อย่าลืมมาแชร์กันด้วยนะ
-->