มะเร็งปากมดลูก รู้ก่อน ป้องกันได้

มะเร็งปากมดลูก อีกหนึ่งชนิดมะเร็งที่เป็นภัยคุกคามแสนน่ากลัวของผู้หญิง โดยถือเป็นมะเร็งที่ผู้หญิงไทยเป็นกันเยอะมากลำดับที่ 2 รองจากมะเร็งเต้านม ข้อมูลโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มีผู้หญิงไทยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทยประมาณ 4,500 ราย ต่อปี และพบผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 8,000 คน ต่อปี เห็นตัวเลขสูงปรี๊ดขนาดนี้แล้ว เราหวังว่าทุกคนจะให้ความสำคัญในการดูแลและป้องกันตัวเองกันอย่างจริงจังแล้วล่ะ



#ต้นตอของมะเร็งปากมดลูก
โดยส่วนใหญ่มะเร็งปากมดลูกมักเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสตัวร้ายที่หลายคนคงคุ้นชื่อเป็นอย่างดี HPV หรือ Human Papilloma Virus โดยเจ้าไวรัส HPV เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ติดต่อง่ายและสามารถแพร่เชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเจ้าเชื้อไวรัส HPV จะรุนแรงขึ้นด้วยการกลายพันธุ์เป็นเชื้อมะเร็งในที่สุด ความน่ากลัวก็คือ มักไม่มีลักษณะอาการและไม่แสดงความผิดปกติใดๆ กับร่างกาย ซึ่งลักษณะอาการที่ชัดเจนมักเกิดขึ้นหลังจากที่เราตรวจพบว่าเป็นมะเร็งแล้ว และนี่จึงเป็นช่องว่างให้หลายคนชะล่าใจ หรืออาจจะรอให้มีอาการก่อน จึงค่อยมาตรวจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด เพราะการตรวจคัดกรองไม่จำเป็นต้องมีอาการก่อนแล้วจึงค่อยไปตรวจ

#อาการเหล่านี้ควรระวัง!
ความผิดปกติเหล่านี้ เป็นสัญญาณเตือนมะเร็งปากมดลูกเพราะอยู่ในระยะที่มีอาการและรอยโรค ซึ่งเราอยากจะให้ผู้หญิงทุกคนตระหนักถึงความผิดปกติเหล่านี้ จะได้รีบเข้าสู่กระบวนการรักษาได้อย่างทันถ่วงที
 
  • มีเลือดออกจากช่องคลอดอย่างผิดปกติ
  • มีเลือดออกจากช่องคลอดแม้ว่าจะอยู่ในช่วงวัยทอง
  • รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
  • มีอาการปวดท้องน้อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
  • มีตกขาวที่มากขึ้นและมีกลิ่นเหม็น
  • ประจำเดือนมาน้อย หรือมามากผิดปกติ

#แก้ปัญหาด้วยการตรวจคัดกรอง
อีกหนึ่งสิ่งที่เราอยากให้ผู้หญิงทุกคนให้ความสำคัญ คือการตรวจคัดกรอง ถ้าเรามีโอกาสตรวจสุขภาพประจำปี หรือการตรวจสุขภาพสำหรับผู้หญิงก็จะมีรายการตรวจภายใน ซึ่งเป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ในส่วนของการตรวจคัดกรองทางเซลล์วิทยา หรือ ตรวจแพปสเมียร์ (Pep Smear) ซึ่งสามารถตรวจที่มีผลแลปที่ชัดเจนและมีความแม่นยำสูง นอกจากนี้ยังมีการตรวจลึกลงไปถึงระดับ DNA คือการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วย Thin Prep Plus Cervista HPV DNA Testing เป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับตรวจดีเอ็นเอของเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ความสัมพันธ์กับการเป็นมะเร็งปากมดลูก ร่วมกับการเจาะลึกว่ามีการติดเชื้อ HPV 16 และ HPV 18 หรือไม่



#วัคซีน HPV ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูก
ปัจจุบันมีการค้นพบเชื้อไวรัส HPV มากกว่า 200 สายพันธุ์ แต่มีสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคในมนุษย์อยู่ประมาณ 30-40 สายพันธุ์ ซึ่งในจำนวนทั้งหมดนี้มีสายพันธุ์ดุ หรือสายพันธุ์ที่ทำให้เซลล์มีการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมะเร็งรวม 14 สายพันธุ์ คือ 16, 18, 31, 33, 35, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 66, 68 โดยเฉพาะสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งปากมดลูก โดยเราแนะนำให้ฉีดทั้งผู้หญิงและผู้ชายตั้งแต่อายุ 11 ปีขึ้นไปจนถึงอายุ 45 ปี เพราะผู้ชายก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ หากเรามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่มีเชื้อ HPV ที่ไม่สามารถกำจัดเชื้อด้วยภูมิคุ้มกันของตัวเองได้

การตรวจอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ สำคัญอย่างไร?
นอกจาก “มะเร็งปากมดลูก” ที่ผู้หญิงต้องตระหนัก ปัญหาสุขภาพที่พบได้มาก เช่น ถุงน้ำรังไข่ เนื้องอกมดลูก เนื้องอกรังไข่ หรือก้อนเนื้อภายในอุ้งเชิงกราน ก็เป็นอีกความผิดปกติที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นเพียงก้อนเนื้อธรรมดาหรือเซลล์มะเร็งก็ได้ โดยการอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด (TVS) แพทย์จะทำการสอดอุปกรณ์อัลตราซาวด์เข้าไปทางช่องคลอด เพื่อตรวจดูความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ โดยโปรแกรมนี้เหมาะกับผู้หญิงอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว ควรเข้ารับการตรวจอย่างน้อยทุก 1 ปี

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หญิงทุกคนไม่ควรละเลย รวมไปถึงการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส HPV ด้วยเช่นกัน

สนใจ แพ็กเกจตรวจสุขภาพ คลิก!
-->