สำเร็จครั้งแรก! ยาเลิกบุหรี่สัญชาติไทย ไซทิซีน เตรียมขึ้นทะเบียนยาหลักแห่งชาติ



ทุกคนคงรู้กันอยู่แล้วว่าการสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ มากมาย และข้อมูลใหม่ล่าสุดจาก ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ยังยืนยันด้วยว่าในคนสูบบุหรี่ที่ติดโควิด-19 มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง 2 เท่า เพราะสารเคมีในบุหรี่จะทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ในขณะที่เมื่อเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ร่างกายแล้วมันก็จะกระจายเชื้อไปทำลายปอดอย่างรวดเร็ว 




ยาเลิกบุหรี่ฝีมือคนไทย
และแล้วความหวังของนักสูบที่กำลังอย่างจะเลิกบุหรี่ก็กลับมาอีกครั้ง! เพราะล่าสุดได้มีการร่วมมือกันระหว่าง สำนักงานองทุนสนับสุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คณะแพทยศาสตร์ มศว. ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนายาเลิกบุหรี่ชนิดใหม่ในประเทศไทยชื่อว่า “ไซทิซีน” (Cytisine) เป็นสารสกัดธรรมชาติจาก “เมล็ดจามจุรีสีทอง” ซึ่งมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการถอนนิโคติน ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายและไม่หงุดหงิดขณะที่เข้าสู่กระบวนการเลิกบุหรี่ 

อัพเดทความคืบหน้าก่อนขึ้นทะเบียนยาหลักแห่งชาติ
ตอนนี้ยาเลิกบุหรี่ไซทิซีนยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย โดยมีการวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองเลิกบุหรี่ด้วยยาตัวนี้ 500 คน เทียบกับอีกกลุ่มที่ใช้ยาชนิดอื่น 500 คน ซึ่งมีแพลนว่าจะเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากงานวิจัยเสร็จสมบูรณ์ องค์การเภสัชกรรมก็จะทำการขึ้นทะเบียนยากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และผลักดันให้ยาตัวนี้เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติต่อไป เพราะในประเทศไทยตอนนี้ ยังไม่ยาชนิดนี้อยู่ในระบบบัญชียาของประเทศ 




ปลอดภัย ได้ผลดี ราคาถูก! 
หากถามถึงความปลอดภัย ต้องบอกว่ายาตัวนี้ถูกใช้มานานกว่า 60 ปีแล้วในยุโรปตะวันออก ถือเป็นยาเลิกบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมาก มีงานวิจัยนานาชาติรองรับและเป็นยาที่องค์การอนามัยโลก (WHO) สนับสนุนให้รัฐบาลทุกประเทศจัดหาไว้เพื่อช่วยให้ประชาชนแต่ละประเทศเข้าถึงยาเลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้นในราคาถูก ซึ่งสำหรับยาเลิกบุหรี่สัญชาติไทยตัวนี้ มีต้นทุนการผลิตที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับยาเลิกบุหรี่อื่นๆ ที่มีขายอยู่ในประเทศไทย ตอนนี้ยังต้องรอองค์การเภสัชเคาะราคาไฟนอลออกมาอีกที แต่เชื่อว่ายังไงก็ถูกกว่ายาเลิกบุหรี่ตัวอื่นๆ แน่นอน

วิธีการใช้ยา  
ยาชนิดนี้มีขนาด 1.5 มิลลิกรัม/เม็ด ซึ่งในช่วง 3 วันแรก จะต้องกิน 6 เม็ด/วัน หลังจากนั้นก็จะลดลงเรื่อยๆ เหลือ 5 เม็ด/วัน จากนั้น 4 เม็ด/วัน และ 2 เม็ด/วันไปจนครบ 25 วัน อ่ะ! ได้ยินแบบนี้ก็อย่าเพิ่งท้อ เพราะตอนนี้มีงานวิจัยในต่างประเทศที่พยายามหาวิธีในการกินยาชนิดนี้ให้ง่ายขึ้น โดยอาจกินแค่ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 3 เวลา ตลอด 25 วันไปเลย ซึ่งก็ได้ผลไม่ต่างกัน


จากสถิติเครือข่ายคลินิกให้คำปรึกษาเลิกบุหรี่เฉลี่ยใน 1 ปี มีผู้เข้ารับบริการเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ 30-40% ในขณะที่คนที่ไม่ใช้ยาสามารถเลิกบุหรี่สำเร็จเพียง 10% เท่านั้น และกลุ่มที่เลิกด้วยตนเองโดยไม่เข้ารับบริการเลิกบุหรี่ใดๆ จะมีโอกาสเลิกสำเร็จเพียง 5% เท่านั้น ฉะนั้นหากใครที่มีความคิดว่ากำลังอยากเลิกบุหรี่อยู่พอดี นี่ถือเป็นโอกาสที่เหมาะมากที่จะเลิกบุหรี่ให้สำเร็จ! 

ถ้ายังเลิกไม่สำเร็จสามารถโทรไปที่สายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 



 
 
-->