เมื่อ Sustainability คือตัวแปรสำคัญในธุรกิจ Healthcare



ถ้าพูดถึงเทรนด์ของโลกในตอนนี้ สองเรื่องใหญ่ๆ ที่เห็นได้ชัดถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องนั่นก็คือ เรื่องของ Sustainability หรือความยั่งยืน การใส่ใจสิ่งแวดล้อม การหันมาให้ความสำคัญกับคอนเซ็ปต์ Eco-Friendly ต่างๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการที่ผู้บริโภคให้ความสนใจกับรถ EV ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น และเรื่องของ Healthcare ที่ผู้คนเริ่มใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น การมาโรงพยาบาลไม่ใช่เพียงแค่การมารักษาเพื่อให้หายป่วยเท่านั้น แต่กลายเป็นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เนื่องจากคนเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ Healthy มากขึ้น แล้วจะดีกว่ามั้ย? ถ้าสองสิ่งนี้สามารถรวมกันได้เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่และคุณภาพชีวิตที่ดีให้ทั้งเราและคนในสังคม

Sustainability ความใส่ใจที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่ปัจจุบัน
องค์การสหประชาชาติ หรือ UN ได้ให้คำนิยามของคำว่า Sustainability ไว้ว่าคือการตอบสนองความต้องการของคนในปัจจุบัน โดยไม่ลดทอนความสามารถในการตอบสนองความต้องการของคนรุ่นถัดไป นั่นหมายถึงว่าการสร้างสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน (Sustainable health behaviors) ไปพร้อมๆ กับการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องความยั่งยืน (Sustainability literacy) เป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อการมีสุขภาพที่ดี ที่ไม่ใช่แค่คนรุ่นปัจจุบันแต่รวมไปถึงคนรุ่นต่อๆ ไปด้วยเช่นกัน

การใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อย…ก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่
เมื่อพูดถึงศูนย์การแพทย์หรือสถานพยาบาล เรามักจะเห็นภาพของการใช้พลังงานมหาศาล ปริมาณขยะใช้แล้วทิ้งอีกจำนวนมากที่ดูเหมือนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่สามารถเข้าใกล้คำว่า Sustainability ได้เลย เพราะการเลือกใช้อุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างมลภาวะเพิ่มขึ้น ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงที่ดีที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนที่แท้จริงได้ในอนาคต

BDMS ที่ถือเป็นเครือข่ายสุขภาพที่สำคัญของประเทศก็เคยมีการพูดถึงเรื่องของเทรนด์ในการดูแลสุขภาพในปี 2566 ไว้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Well-being with Digital Health ที่มีการนำสื่อดิจิทัลมาช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทุกวันมาใช้งานในด้านนี้ มาช่วยสร้าง Healthy Lifestyle ได้อย่างยั่งยืน



และการเลือกใช้อุปกรณ์สำนักงานที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็เป็นเหมือนฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยให้องค์กรก้าวเข้าสู่ความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง เราต้องยอมรับว่าหนึ่งสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกๆ ศูนย์การแพทย์หรือสถานพยาบาลไม่ว่าจะขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ สิ่งที่ต้องใช้อยู่ตลอดคือ ‘ฉลากยา’ ซึ่งในแต่ละวันมีจำนวนฉลากยาที่ต้องถูกพิมพ์ออกมาอย่างมหาศาล ‘ฉลากยา’ เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมากกับคนไข้ รายละเอียดต่างๆ ที่ถูกพิมพ์บนฉลากต้องมีความถูกต้องแม่นยำและคมชัด ที่สำคัญต้องไม่หลุดลอกเมื่อโดนความชื้น หรือน้ำ รวมไปถึงต้องสามารถปรับรูปแบบการพิมพ์หรือกำหนดปริมาณการพิมพ์ฉลากได้ง่าย เพื่อให้สะดวกในการใช้งานกับคนไข้ที่มีอยู่ทุกวัน เครื่องพิมพ์ฉลากสี Epson ColorWorks จึงถือเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจในการเลือกใช้อุปกรณ์ที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ Healthcare ได้เป็นอย่างดี



ด้วยเทคโนโลยีหัวพิมพ์ PrecisionCore TFP ที่ช่วยในการพิมพ์ฉลากที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างถูกต้องและแม่นยำภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที อีกทั้งยังมาพร้อมหมึก Pigment Ink ที่ทำให้สามารถพิมพ์ข้อมูลต่างๆ ทั้งตัวอักษรและบาร์โค้ดบนฉลากที่ทำจากวัสดุที่หลากหลายได้ ไม่ว่าจะเป็นฉลากเคลือบเงา ฉลากเรียบ ฉลากใยสังเคราะห์ ฉลากด้าน หรือแม้แต่ฉลากม้วน ทำให้มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลบนฉลากจะมีความคมชัด ทนน้ำ ทนความชื้น ไม่ซีดจางเมื่อเวลาผ่านไป และอีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นคือสามารถพิมพ์ฉลากได้ตามจำนวนที่ต้องการ (On-demand) จึงช่วยลดการสร้างขยะรวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในธุรกิจเพราะไม่จำเป็นต้องสำรองฉลาก และหาพื้นที่จัดเก็บสต็อกฉลาก นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีการตรวจสอบหัวฉีดของเครื่องพิมพ์และเซนเซอร์ในหัวพิมพ์ ที่พร้อมทำความสะอาดหัวพิมพ์แบบอัตโนมัติ ทำให้สามารถทำงานพิมพ์ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีหยุดชะงัก สะดวกในการใช้งานด้วยฟังก์ชันที่พร้อมรองรับ 

จะเห็นว่าด้วยคุณสมบัติการทำงานของเครื่องพิมพ์ฉลากสีจาก Epson นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคโดยตรงอย่างคนไข้ ที่จะได้ข้อมูลบนฉลากยาที่ชัดเจน ไม่ตกหล่นแล้ว ในส่วนของผู้ประกอบการเอง Epson ColorWorks ก็ช่วยตอบโจทย์เรื่อง Function การทำงานที่รวดเร็ว มีความถูกต้องแม่นยำ ช่วยลดต้นทุน ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย รวมไปถึงลดการสร้างขยะสิ้นเปลืองในอนาคตได้ เรียกว่าเป็นโซลูชันด้านสุขภาพและการแพทย์ที่เชื่อถือได้และสร้างความมั่นใจทั้งต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้ดีเลยทีเดียว และที่สำคัญเครื่องพิมพ์ฉลากสีจาก Epson ยังตอบโจทย์เรื่องของ Sustainability ที่ช่วยสร้างความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับธุรกิจ Healthcare ได้อย่างแท้จริง เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ท่ามกลางการเกิดขึ้นของโรงพยาบาลใหม่ๆ มากมาย พฤติกรรมของผู้บริโภคและความรู้สึกในเชิงบวกที่มีต่อแบรนด์จะช่วยให้ธุรกิจ Healthcare ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง เหมือนอย่างที่เคยมีงานวิจัยกลุ่มผู้บริโภคอาเซียน โดยศูนย์วิจัยความเป็นอยู่ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN: HILL ASEAN) ที่ได้ศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมผ่านช่องทางออนไลน์กว่า 4,500 คน ในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่มีช่วงอายุ 20-49 ปี พบว่าผู้บริโภคกว่า 80% ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และกว่า 81% เต็มใจที่จะจ่ายสูงขึ้นเพื่อสนับสนุนสินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

และนี่คงเป็นเหตุผลที่ช่วยอธิบายว่า Sustainability จะช่วยเพิ่มมูลค่า (ทั้งทางการเงินและจิตใจ) ให้กับธุรกิจ Healthcare เติบโตอย่างมั่นคงในยุคนี้ได้อย่างไร

สนใจติดต่อขอข้อมูลหรือทดลองผลิตภัณฑ์ได้ที่: Epson Thailand
-->