ดูหนังสยองทำให้รู้สึกดีขึ้น?
เวลาดูหนังผี บางคนรู้สึกกลัวแต่สนุก? เหมือนหัวใจเต้นแรงแต่กลับอยากดูต่อเรื่อยๆ ความรู้สึกนี้ไม่แปลกเลย เพราะในสมอง มันคือปฏิกิริยาซับซ้อนระหว่าง ‘ความกลัว’ กับ ‘ความรู้สึกปลอดภัย’
สมองเราทำงานยังไงกันแน่ เวลาดูหนังผี?เมื่อหนังเริ่มมีเสียงแปลก ๆ ภาพหลอนๆ สมองส่วนที่ชื่อว่าอะมิกดาลา (Amygdala) จะทำงานทันที ที่คอยเป็นศูนย์กลางที่คอยบอกว่า ‘มีบางอย่างไม่ปลอดภัย’ สมองส่วนนี้จะส่งสัญญาณให้ร่างกายเข้าสู่โหมด Fight or Flight ต่อสู้หรือหนี หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น เพราะร่างกายคิดว่าอาจต้องเผชิญภัย แต่สิ่งที่ต่างจากของจริงคือ สมองอีกส่วนรู้ว่า “นี่เป็นแค่หนัง” ทำให้เรากลัว แต่ดูต่อได้ สิ่งนี้นักจิตวิทยาเรียกว่า “ความกลัวที่ควบคุมได้”
ตอนที่เรากำลังลุ้น.. สมองเราจะหลังสารกระตุ้น ฉากที่ทำให้ใจเต้น ลุ้นว่าผีจะออกมาเมื่อไหร่ ตื่นเต้นว่าฉากนี้จะมีอะไร สมองเราจะทำการหลั่งสารกระตุ้นอย่าง
- อะดรีนาลีน (Adrenaline) – ทำให้รู้สึกตื่นตัว หัวใจเต้นแรง
- โดพามีน (Dopamine) – สารแห่งความสุขและความตื่นเต้น
- เอนดอร์ฟิน (Endorphins) – สารลดความเครียด ทำให้รู้สึก “ฟิน” หลังผ่านความกลัว
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมหลังดูหนังผีจบ หลายคนกลับรู้สึก “โล่ง เบา สดชื่น” เพราะสมองปลดปล่อยสารเคมีที่ช่วยระบายความเครียดออกมาแล้ว
สมองกำลัง ‘ฝึกซ้อม’ การรับมือความกลัวงานวิจัยจาก Recreational Fear Lab พบว่า คนที่ชอบดูหนังสยอง มักมี “ความยืดหยุ่นทางอารมณ์” (emotional resilience) สูงกว่า เพราะสมองคุ้นชินกับการเจอความกลัว แล้วกลับมาสู่ภาวะสงบได้เร็วขึ้น พูดง่าย ๆ คือ การดูหนังผีเป็นเหมือนห้องซ้อมความกลัวของสมอง เรารู้ว่ากลัวได้ แต่ก็รอดได้เพราะสมองเรียนรู้ว่าความกลัวไม่ได้น่ากลัวเท่าที่คิด
แล้วดูหนังผีแล้วคลายเครียดได้จริงหรอ?เมื่อร่างกายเข้าสู่โหมดตื่นตัว แล้วผ่านมันไปได้ สมองจะหลั่งเอนดอร์ฟินและเซโรโทนิน ทำให้รู้สึก “ปลอดภัยและผ่อนคลาย” หลังหนังจบ เหมือนเราได้ปลดปล่อยพลังลบออกจากร่างกาย
อีกอย่างคือ ระหว่างดูหนังผี สมองโฟกัสอยู่กับเรื่องตรงหน้า เลยไม่ว่างคิดเรื่องเครียด ๆ ในชีวิตจริง หลังหนังจบ เราเลยรู้สึกเหมือน “ได้พักสมอง” จากปัญหาทั้งหมด
แต่หนังผีอาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน สำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะวิตกกังวลหรือเคยมีประสบการณ์ trauma การดูหนังผีอาจกระตุ้นความกลัวมากเกินไป อาจนอนไม่หลับ ฝันร้าย หรือมีภาพจำหลอนกลับมาได้ ดังนั้น ถ้าอยากใช้หนังผีเป็น “การรีเซ็ตอารมณ์” ให้เลือกแนวที่ไม่รุนแรงเกินไป เพราะเน้นความตึงเครียดทางอารมณ์มากกว่าฉากสยองเลือดสาด อย่างเช่น
- Hereditary 2018 | แนว Psychological, Family horror เรื่องราวของครอบครัวที่ต้องเผชิญเหตุการณ์เหนือธรรมชาติหลังจากการสูญเสียคนในบ้าน ค่อย ๆ หลอน ไม่มี Jumpscare แต่กดดันสุด ๆ
- The Others 2001 | แนว Psychological horror, Mystery เรื่องราวของแม่ลูกสองอาศัยอยู่ในบ้านเก่าที่เต็มไปด้วยกฎแปลก ๆ และเริ่มสงสัยว่าพวกเขาอาจไม่ได้อยู่คนเดียว ไม่มีเลือด ไม่มีผีให้ตกใจ แต่เน้นแนวกดดันทางจิตใจ
- Midsommar 2019 | แนว Psychological horror, Folk horror, Drama หญิงสาวที่สูญเสียครอบครัวอย่างกระทันหัน เดินทางไปร่วมเทศกาล midsummer ที่ดูสดใส แต่ค่อย ๆ เผยด้านมืดของพิธีกรรมสุดหลอน สะท้อนภาวะ “สูญเสีย–ยอมรับ–เกิดใหม่” ของจิตใจ เหมือนได้ปลดปล่อยอารมณ์เจ็บปวดร่วมกับตัวละคร
ดูหนังผีแล้วกลัว…แต่ก็ผ่อนคลายฟังดูย้อนแย้งแต่เป็นเรื่องจริง เพราะในเชิงจิตวิทยา มันคือการ ฝึกสมองให้รู้จักความกลัวในพื้นที่ปลอดภัย เมื่อสมองได้เผชิญความกลัวแบบนี้บ่อย ๆ มันจะ “ชินกับความเครียด” และ “ปล่อยวางได้ไวขึ้น” จนกลายเป็นการรีเซ็ตสมองในแบบที่เราไม่รู้ตัวเลยก็ได้



