เชื่อมั้ย? ผู้ชายก็ “ขี้เหวี่ยง” ได้ไม่แพ้สาวๆ เลย



อย่าคิดว่าจะมีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่อารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย  เพราะ “ผู้ชายแมนๆ” ก็เป็นกับเขาได้เหมือนกัน ดีไม่ดีถึงเวลาขึ้นมาเป็นหนักกว่าอีกจ้า แล้วอยากรู้มั้ย ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาลุกขึ้นมาเหวี่ยง





เช็คซิ ช่วงนี้ปรี๊ดบ่อยๆ หรือเปล่า
เอะอะเหวี่ยง เอะอะโกรธ หรืออยู่ๆ ก็ดึงเศร้า เหงาซึมขึ้นมา จนคนรอบข้างปรับตัวกันแทบไม่ทัน ถ้าใครที่กำลังเป็นแบบนี้อยู่ทั้งๆ ที่เเต่ก่อนไม่เคยเป็น จากที่เคยระงับอารมณ์ได้มากกว่านี้แล้วล่ะก็ ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าคุณอาจมีระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติอยู่ก็ได้ เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ บางทีการที่เหวี่ยงมากไป หรือเศร้ามากไปก็มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตไม่ใช่น้อยเลยล่ะ 

อย่าลืมว่าผู้ชายก็มี “ฮอร์โมน”
ใช่แล้วผู้หญิงมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เป็นตัวกำหนด ส่วนผู้ชายก็มีฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนเหมือนกัน ซึ่งแหล่งผลิตเจ้าฮอร์โมนตัวนี้ก็จะอยู่ที่อัณฑะ เเละถ้าเมื่อไรที่มีการสร้างน้อยลง ก็จะส่งผลกับการทำงานของกล้ามเนื้อ และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ทางเพศ อ้วนลงพุงง่าย อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และรวมไปถึงสภาวะอารมณ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ เหวี่ยงไปมาจนคนตามอารมณ์ไม่ทันว่าสรุปจะมาเวย์ไหนกันแน่ก็มาจากเจ้าฮอร์โมนตัวนี้แหละ  

หรือพูดง่ายๆ ก็คือ “วัยทอง” 
มีหลายคนที่มีความเข้าใจผิดคิดว่า “วัยทอง” คืออาการที่เกิดขึ้นได้เเต่เฉพาะผู้หญิงอย่างเดียว เปลี่ยนความคิดใหม่ด่วนเลย ผู้ชายก็มีวัยทองเหมือนกัน อย่างที่บอกแหละว่าไม่แพ้ผู้หญิงหรอก แล้วล่าสุดยังมีผลสำรวจด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ของมหาวิทยาลัยโคเปญเฮเกน เดนมาร์ก บอกว่า ในปัจจุบันที่มีสภาวะเร่งรีบจากการทำงาน ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ รวมไปถึงการขาดการออกกำลังกาย การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ทำให้จากที่แต่ก่อนวัยทองในผู้ชายจะเกิดช้ากว่าผู้หญิงประมาณเฉลี่ยอยู่ที่ 50 ปีขึ้นไปแต่ในยุคนี้พบว่าแค่ 30 ปลายๆ ผู้ชายก็เสี่ยงเป็นวัยทองกันได้เเล้ว

เช็คให้ชัวร์ต้องตรวจวัดระดับฮอร์โมน
ซึ่งอาการทางร่างกายที่แสดงออกมา เอาจริงๆ ก็เป็นการคาดเดา หรือสันนิษฐาน แต่ถ้าเอาให้ชัวร์ที่สุดคุณควรที่ไปตรวจดูระดับฮอร์โมมเทสเมอโรนจะดีกว่า จะได้รู้กันไปเลยว่าอาการที่เป็นนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ เพราะนอกจากจะรู้แล้ว จะได้รู้ด้วยว่าจะต้องรับมือกับภาวะนี้ยังไง ซึ่งการตรวจจะมีทั้งในรูปแบบปริมาณฮอร์โมนทั้งหมด (total form), ฮอร์โมนตัวอิสระที่ออกฤทธิ์ (free form) และฮอร์โมนที่พร้อมใช้งาน (bio available form) ซึ่งการตรวจทั้ง 3 แบบ จะช่วยวัดผลได้แม่นยำมากขึ้น

แล้วนอกจากนี้ยังจำเป็นต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการอย่างอื่นด้วยเพื่อช่วยประเมินว่าภาวะวัยทองได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจนทำให้เกิดโรคต่างๆ แล้วหรือยัง เช่นการตรวจเลือดเพื่อดูปริมาณความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง ตรวจน้ำตาล และไขมันในเลือด ตรวจดูค่ามะเร็งต่อมลูกหมาก ตรวจมวลกระดูก และอื่นๆ รวมทั้งตรวจดูระดับฮอร์โมนจากต่อมหมวกไตที่ชื่อว่า DHEAS หรือ Dehydroepiandrosterone ด้วย เพราะฮอร์โมนชนิดนี้เป็นฮอร์โมนตั้งต้นก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งพบว่าบางครั้งภาวะเครียดจากการทำงาน และการพักผ่อนไม่เพียงพอก็ส่งผลให้มีการผลิตฮอร์โมน DHEAS ลดลง แล้วทำให้ฮอร์โมนเพศชายผลิตน้อยเกินไปด้วยก็ได้

รู้แล้วก็อย่าลืมลองเช็คตัวเองกันดูว่าช่วงนี้ตัวเองเหวี่ยงๆ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แบบไม่มีสาเหตุหรือเปล่า แล้วอายุเข้าข่ายหรือยัง ถ้าเข้าข่ายด้วยลองไปตรวจเช็คดูหน่อยก็ดีเหมือนกัน ท่องไว้ว่ารู้เร็วก็รักษาหายได้เร็วขึ้นนะ 
-->