เช็คตัวเองหน่อย!! วันหยุดที่ผ่านมา ฉลองจน 'ตับพัง' หรือเปล่า

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เป็นช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองและสนุกสนาน แต่ถ้าคุณเพลิดเพลินจนไม่ลืมหูลืมตา อาจจะ “ตับพัง” ได้เลยนะ

ใช่เพียงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ จะทำให้ “ตับอ่อนแอ” แต่ยังหมายรวมถึงอาหารที่เรากินเข้าไปด้วย !!!

นี่คือความเสียหายที่เกิดขึ้นและวิธีเลี่ยงที่เราอยากบอก


Photo by Giovanna Gomes on Unsplash
หากคุณดื่ม 1-2 แก้ว
เพียงแค่แก้วก็สร้างความเปลี่ยนแปลงแล้ว ตับจะกำจัดแอลกอฮอล์ออกมาในรูปแบบของน้ำเสียแล้วขับถ่ายออกมาทางปัสสาวะ และคาร์บอนไดออกไซด์ที่ออกจากร่างกายด้วยการหายใจออก ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ไม่ใช่งานง่ายของตับเลย ที่น่ากังวลคือ กระบวนการกำจัดแอลกอฮอล์ทำให้เกิดกรดไขมันที่จะถูกจัดเก็บในรูปแบบของไตรกลีเซอไรด์ ที่เป็นคอเรสเตอรอลชนิดหนึ่ง และคงอยู่ที่ตับจนกว่าร่างกายเราจะเอาออกมาจนหมด แต่ถ้าคุณดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่นานตับก็จะจัดการได้เอง

แต่ถ้าคุณต่อด้วยแก้วที่ 3-4-5-…
Christopher Koh นักวิจัยจากสถาบันโรคเบาหวานแห่งชาติและทางเดินอาหารและโรคไต สหรัฐอเมริกาบอกว่า “ทุกครั้งที่คุณดื่ม ตับจะช็อคจนไม่สามารถฟื้นคืนสภาพเดิมได้” ยิ่งคุณดื่มมากเท่าไหร่ตับของคุณก็จะสะสมไตรกลีเซอไรด์มากขึ้นเท่านั้น และหากมีมากเกินไปก็จะไม่สามารถจัดการออกไปได้ ซึ่งนี่เป็นการทำลายเนื้อเยื่อตับและทิ้งรอยแผลไว้ อาจนำไปสู่โรคตับแข็งซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้นในชายวัย 25-34 ปี... แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องดี


Photo by Robin Stickel on Unsplash
อาหาร ทำร้ายตับด้วยหรอ ?
ถ้าเมนูโปรดของคุณในช่วงเทศกาลปรุงมาจากผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยไขมันอิ่มตัว แป้งที่ผ่านการขัดสี และเนื้อสัตว์แปรรูป นอกจากเรื่องน้ำหนักที่หลายคนกังวลว่าจะเพิ่มขึ้นแล้ว เตรียมใจไว้เลยว่าคุณมีความเสี่ยงภาวะ “ไขมันพอกตับ” 
Mazen Noureddin หัวหน้าโครงการโรคไขมันพอกตับในลอสแอนเจลิส บอกว่า ชาวอเมริกันกว่า 30% มีภาวะไขมันพอกตับ ซึ่งส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้ไม่รู้ตัวและไม่สนใจจะเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพราะไม่มีอาการหรือความผิดปกติแสดงออกมา ถือเป็นภัยเงียบที่ส่งผลเสียไม่ต่างจากการดื่มหนัก และที่น่ากลัวกว่าก็คือถ้าคุณกินหนักไม่ระวัง ในระยะเวลาเพียง 6 สัปดาห์ก็อาจเกิดภาวะไขมันพอกตับได้โดยไม่รู้ตัว

กู้คืนได้ไหม ถ้าตับพังแล้ว
ข่าวดีคือคุณสามารถทำได้ !!! ตามธรรมชาติแล้วตับสามารถฟื้นตัวได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องพึ่งการล้างพิษหรือเข้าโปรแกรมดีทอกซ์ราคาแพง เพียงแค่คุณหยุดดื่มเครื่องอื่มแอลกอฮอล์ และเลือกกินอาหารเพื่อสุขภาพ ก็ช่วยลดการสะสมของไขมันในตับและช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อตับที่เกิดขึ้นได้ หากคุณสามารถลดน้ำหนักลงได้ 5% ก็จะช่วยลดปริมาณไขมันในตับได้ถึง 30% เลยเชียวล่ะ

ไม่น่าเชื่อเลยใช่มั้ยล่ะ ว่าอาหารก็มีส่วนทำร้ายตับเหมือนกัน... รู้อย่างนี้แล้วเราก็ต้องเลือกกิน เลี่ยงดื่ม และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองยังไงล่ะ


Photo by Maddi Bazzocco on Unsplash

 
-->