ปรับเปลี่ยนความคิด พิชิตใจวัยทีน

“เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย” ก็ใช่สิ้ เพราะทำอะไรใครก็ไม่เข้าใจ จนจะหันไปคุยกับหุ่นยนต์แทนแล้วหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ได้มีผลการศึกษาจากทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์บอกไว้ว่า หุ่นยนต์ขนาดเล็กกะทัดรัดมีส่วนสำคัญในการช่วยบรรเทาปัญหาสุขภาพจิตของเด็กและวัยรุ่นได้ เนื่องจากเด็กและวัยรุ่นเหล่านี้มีแนวโน้มจะพูดคุยเปิดใจกับหุ่นยนต์มากกว่ากับนักจิตวิทยา นั่นไง! สงสัยจะต้องมาปรับความเข้าใจกันใหม่แล้ว



#พูดไม่เชื่อฟัง เพราะมั่นใจตัวเอง
“พ่อแม่พูดอะไรไม่เคยฟัง” ความในใจของคนเป็นพ่อแม่ที่อยากจะบอกลูกวัยรุ่นทั้งหลาย ซึ่งเราอยากบอกว่าอย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะช่วงวัยนี้ลูกจะเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง ชอบลองผิดลองถูกทำอะไรด้วยตัวเอง คิดต่างจากเดิมที่พ่อแม่บอกอะไรก็เชื่อ ต้องการอิสระและความเป็นส่วนตัว ไม่ชอบให้พ่อแม่เข้ามาควบคุมจัดการให้เหมือนตอนเป็นเด็กๆ แล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่พ่อแม่ต้องทำความเข้าใจและรับมือ มากกว่าที่จะบังคับให้ทำตามในสิ่งที่คนเป็นพ่อแม่ต้องการ ต่อให้จะเป็นความหวังดีก็เถอะ เพราะต่อให้ลูกเชื่อฟัง และยอมทำตามที่พ่อแม่บอกทุกอย่า ก็อาจเป็นการสร้างความเก็บกด และปลูกฝังทำให้ลูกกลายเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง โดยช่วงวัยรุ่นเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ได้ง่าย เพราะต้องปรับตัวกับหลายสิ่งทั้งสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป การเรียนที่หนักขึ้น การเป็นที่ยอมรับของกลุ่มเพื่อน ซึ่งพ่อแม่จะต้องให้ความสนใจดูแล...แบบมีระยะห่าง



#ติดเพื่อน เป็นเรื่องธรรมดา
ในวันที่ลูกโตขึ้นเป็นวัยรุ่น เขาจะรู้สึกว่าตัวเองโตแล้ว สามารถพึ่งพาตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนในครอบครัวมากนัก จึงเริ่มอยากจะมีอิสระ มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง คิดว่าไม่ต้องพึ่งพาคนในครอบครัวมากนัก ในวัยนี้เด็กมักต้องการการยอมรับจากบุคคลภายนอกคนในบ้าน โดยเฉพาะกับเพื่อน เขาจึงชอบที่จะทำกิจกรรมนอกบ้าน จนอาจกลายเป็นเรื่องถกเถียง เพราะไม่เข้าใจกัน ดังนั้นสิ่งที่พ่อแม่จะทำได้คือเข้าใจและยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดา และต้องคอยสังเกตว่าเพื่อนที่ลูกคบอยู่มีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม หรือกำลังชักชวนกันไปในทางที่ผิดหรือไม่ แล้วใช้การเสนอแนะ ให้เขาได้คิดทบทวน และตัดสินใจด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้รู้สึกเหมือนถูกบังคับ ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เด็กมีพฤติกรรมต่อต้าน พร้อมทั้งพยายามส่งเสริมให้เขาและกลุ่มเพื่อนได้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ด้วยกัน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงเมื่อเด็กอยู่กับกลุ่มเพื่อนได้



#ขอ (เถอะ) พื้นที่ส่วนตัว
ไม่ต้องหนักใจถ้าลูกชอบใช้เวลาอยู่ในห้อง หรือในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ออกไปสุงสิงกับใคร โดยเฉพาะคนในบ้าน เพราะวัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังจะเปลี่ยนจากวัยเด็กเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เขาจึงต้องการแยกตัวเองออกจากพ่อแม่ แล้วใช้เวลาอยู่กับตัวเอง กลุ่มเพื่อน รวมถึงติดตามไอดอล ดาราที่ชอบ เขาจึงต้องการพื้นที่เพื่อใช้เวลาอยู่ในโลกส่วนตัวของเขา ซึ่งบางครั้งการใช้เวลาอยู่ในโลกส่วนตัวที่มากเกินไปก็อาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวได้ เพราะฉะนั้นพ่อแม่จึงควรวิธีพาตัวเองเข้าไปอยู่ร่วมในพื้นที่ของลูก หรือชักชวนให้เขาออกมาทำกิจกรรมร่วมกัน โดยไม่ทำให้เขารู้สึกอึดอัด พร้อมทั้งให้เวลาและปล่อยให้เขาได้เป็นอิสระอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวบ้าง 



#มีแฟน...ไม่ใช่เรื่องใหญ่
เมื่อถึงวัยที่ฮอร์โมน (วัยว้าวุ่น) ทำงาน ความรักก็มักเป็นสิ่งที่ตามมา ซึ่งจะว่าไปก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ด้วยความเป็นห่วง และหวังดีของพ่อแม่มักทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่...และไม่ธรรมชาติ ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะวัยรุ่นยังอ่อนประสบการณ์ในเรื่องของความรัก ถ้าเทียบกับผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะแล้ว แต่บางเรื่องก็ทำได้เพียงแค่เฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ แล้วปล่อยให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยอาจจะสร้างเกราะป้องกันให้เขาด้วยการสอนให้รู้จักรักตัวเองให้เป็น ก่อนที่จะรักคนอื่น เพื่อที่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นปัญหาอะไรในเรื่องความรักก็ตาม สุดท้ายแล้วเขาจะหันกลับมามองและให้ความรักกับตัวเองได้ 


ถ้าพ่อแม่บ้านไหนที่เข้าใจได้แบบนี้ ลูกก็คงไม่ต้องร้องออกไปว่า “วัยรุ่นเซ็ง” 
-->