งานวิจัยเขาบอกมา! หลั่งบ่อยๆ ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้

ถ้าว่าด้วยเรื่อง “การหลั่ง” แล้วล่ะก็...คงไม่มีหนุ่มคนไหนกล้าพูดว่าไม่เคยหรอก เพราะต่อให้คุณเป็นหนุ่มโสดและซิง อย่างน้อยก็ต้องเคยขัดจรวดเพื่อปล่อยเชื้อเพลิงกันบ้าง แต่ถ้าจะให้ดี...มาลองเช็กดูหน่อยว่าคุณหลั่งบ่อยแค่ไหนกัน เพราะงานวิจัยเขาบอกมาว่า หนุ่มคนไหนหลั่งไม่ถึง 21 ครั้งต่อเดือน มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่าคนอื่นๆ ได้นะ



ผลการศึกษาของฮาร์วาร์ด จากการติดตามผู้ชายจำนวน 29,342 คน ที่มีช่วงอายุระหว่าง 46 ถึง 81 ปี ซึ่งให้ผู้เข้าร่วมรายงานข้อมูลจำนวนเฉลี่ยของการหลั่งต่อเดือนตอนช่วงอายุ 20-29 ปี, 40-49 ปี และในปีล่าสุด โดยนับรวมทั้งการหลั่งจากการมีเพศสัมพันธ์และจากการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง พบว่า...ผู้ชายที่มีการหลั่งอสุจิ 21 ครั้งหรือมากกว่านั้นในหนึ่งเดือน จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากลดลงถึง 33% เลยทีเดียว

ในขณะเดียวกัน ผลการศึกษาในออสเตรเลียจากผู้เข้าร่วมเพศชายจำนวน 2,338 คน ก็ได้ให้ข้อสรุปที่คล้ายคลึงกัน โดยพบว่าผู้ชายที่มีอัตราการหลั่งอสุจิเฉลี่ย 4.6 – 7 ครั้งต่อสัปดาห์ มีโอกาสเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยกว่าผู้ชายที่มีการหลั่งอสุจิเฉลี่ยน้อยกว่า 2.3 ครั้งต่อสัปดาห์

การหลั่งบ่อยๆ อาจจะฟังดูเหมือนว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่สำหรับผู้ชายบางคนที่กำลังเผชิญปัญหา “ถึงจุดสุดยอด แต่ไม่ยอมหลั่ง” เรามีทริคสุดเจ๋งที่คอนเฟิร์มได้เลยว่า...จะช่วยให้คุณหลั่งง่าย หลั่งเร็ว จนเลิกกังวลไปเลย

เทคนิคที่ว่านี้มาจากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ The College of Wooster ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ที่ได้ทำการทดลองผู้ชายที่มีสุขภาพแข็งแรงจำนวน 21 ราย โดยมีการเก็บตัวอย่างอสุจิเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งตัวอย่างอสุจิที่ถูกเก็บมาศึกษาจะมาจากการให้ผู้ชายดูคลิปเป็นเวลา 3 นาที โดยคลิปที่ 1-6 จะเป็นคลิปของผู้ชายและผู้หญิงคนเดียวกัน ในขณะที่คลิปที่ 7 จะเป็นผู้ชายคนเดิมแต่เปลี่ยนผู้หญิงคนใหม่ ที่มีใบหน้า สีผม และรอยสัก แตกต่างไปจากผู้หญิงคนก่อน

จากผลการศึกษาพบว่า...จำนวนครั้งของการดูผู้หญิงคนเดิมซ้ำๆ ทำให้การหลั่งเป็นไปได้ยากมากขึ้นเรื่อยๆ แต่พอผู้หญิงในคลิปเปลี่ยนเป็นคนใหม่ กลับทำให้ผู้ชายหลั่งได้เร็วขึ้นและน้ำอสุจิมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากการตอบสนองตามสัญชาตญาณเมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่ไม่คุ้นเคยนั่นเอง


ทริคนี้ไม่เพียงแค่ช่วยลดปัญหาเรื่องการไม่ยอมหลั่ง แต่ในการศึกษาวิจัยยังมีแนวโน้มจะนำไปใช้กับคู่รักที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยากที่เกิดจากอสุจิฝ่ายชายอีกด้วย ใครอยากลองใช้เทคนิคนี้ดู บางที...มันอาจจะเวิร์คก็ได้!!

 
-->