นมวัว VS นมพืช คุณคิดว่าดื่มอะไร เวิร์คกว่ากัน !

 
นมวัวสุดแสนคลาสสิคที่ใครๆ ก็รู้จักกันถึงประโยชน์ของมันกันอยู่แล้ว แต่ในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา กระแสของเหล่านมพืชต่างๆ อย่างนมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง หรือน้ำนมข้าว ดูจะมาแรงเเซงโค้งนมวัวกันจนทำให้บางคนสับสน หรือมีความเข้าใจกันไปว่านมพืชมีประโยชน์กว่านมวัว หรือกินแล้วดีกว่านมวัว แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้



 
 
มีผลการวิจัยวัดกันแก้วต่อแก้ว 
ซึ่งเหล่าข้อถกเถียง หรือความเชื่อต่างๆ พวกนี้เลยทำให้ European Journal of Nutrition จากประเทศสหัฐอเมริกา ได้ลองทำการศึกษาเรื่องนี้จนได้ผลออกมาว่าเอาจริงๆ แล้ว ผลลัพธ์ของนมทั้งสองก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันขนาดนั้น นั่นก็หมายความว่าเราจะมาฟันธงว่านมอะไรดีกว่ากันก็คงจะไม่ได้ เพราะในแต่ละนมนั้นก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไปโดยเริ่มจาก 
 
COW's MILK
โดยปกติแล้วตามสูตรปกติปริมาณ 8 ออนซ์ หรือ 230 มิลลิลิตร (เทียบเท่านมกล่องพร้อมดื่มไซส์มาตรฐาน) จะมีโปรตีน 8 กรัม 149 แคลอรี นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งแคลเซียมสูง และวิตามินดีช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ในขณะที่ไขมันจากนมวัวก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะจากผลการศึกษาของ European Journal of Nutrition พบว่า คนสูงวัยที่ดื่มนม 4 ออนซ์เป็นประจำทุกวัน ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ‘น้อยกว่า’ คนดื่มนมไขมันต่ำถึง 12% ด้วยซ้ำ เลยถามว่าการดื่มนมเป็นประจำทำให้อ้วนจริงไหม ก็ไม่เสมอไป เพราะอย่าลืมว่านมมีทั้งไขมัน และโปรตีน การดื่มนมทำให้อิ่มท้อง ลดการกินจุบจิบระหว่างมื้อ ถ้าเราดื่มตอนเช้าจะช่วยลดความโหยมื้อกลางวัน ส่วนน้ำตาลในนมได้มาจากแล็กโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลธรรมชาติที่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเหวี่ยง แต่ปัญหาอาจจะอยู่ตรงที่มีคนจำนวนมากที่แพ้แล็กโทสในนม  
 
ALMOND MILK
นมอัลมอนด์ที่ฮิตกันจริงจังในช่วง 2-3 ปีนี้ เพราะด้วยปริมาณแคลลอรีที่ต่ำเพียง 30-35 แคลอรีต่อแก้ว ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในบรรดานมทั้งหมด มีไขมันไม่อิ่มตัว รสชาติดี แต่ข้อเสียคือ มีปริมาณโปรตีนต่ำมากเพราะมีเพียง 1 กรัมต่อแก้วเท่านั้น ส่วนสารอาหารอื่นๆ อย่างไขมันดี และไฟเบอร์ต่างๆ ยังพบในปริมาณที่น้อยมาก เทียบไม่ได้กับการกินอัลมอนด์แบบเต็มเม็ด อีกอย่างด้วยราคาที่สูง ทำให้ผู้ผลิตบางเจ้าใส่น้ำลงไปเยอะๆ ทำให้สารอาหารเจือจาง นมอัลมอนด์จึงมีลักษณะใส บาง จืด ดูเบาแคลอรี แต่ก็ทำให้สารอาหารเบาตามไปด้วย   
 
SOY MILK
ในบรรดานมพืชทั้งหมด นมถั่วเหลืองมีปริมาณโปรตีนสูงสุดอยู่ที่ 7 กรัมต่อหนึ่งถ้วย วัดได้ 80 แคลอรี ซึ่งใกล้เคียงนมวัวมากที่สุด ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย ทั้งยังมีไอโซฟลาโวนส์ (Isoflavones) ช่วยลดการเติบโตของเซลล์มะเร็ง แต่แนะนำให้ดื่มสูตรไม่เติมน้ำตาล และแป้ง แต่ก็มีข้อเสียตรงที่มีไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ซึ่งเป็นฮอร์โมนจากพืชที่ส่งผลต่อฮอร์โมนเพศชายหากดื่ม ‘มากกว่า’ 4 แก้วขึ้นไป แต่ก็ไม่ต้องห่วงถ้าไม่ได้ดื่มเกินต่อวัน  อีกหนึ่งข้อคือนมถั่วเหลืองก็ยังคงมีข้อด้อยตรงที่มี กลิ่น รสชาติที่ค่อนข้างดื่มยาก แล้วถ้ายิ่งไม่เติมน้ำตาลลงไปด้วย ก็ยิ่งดื่มยากไปอีก และมีหลายคนแพ้ถั่วเหลือง  
 
RICE MILK
ใครที่แพ้ทั้งนมวัว แพ้กลูเตน และนมถั่ว นมข้าวอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นกลูเตน-ฟรี แถมบางยี่ห้อในตามท้องตลาดก็เพิ่มวิตามิน และสารอาหารอื่นๆ เข้าไปด้วย ไม่มีไขมัน คอเลสเตอรอล และน้ำตาล (ถ้าไม่ใส่เพิ่ม) แต่ข้อเสียก็คือไม่มีโปรตีนเลย แต่มีคาร์โบไฮเดรตมากกว่านมวัว ส่วนรสชาติก็อาจจะดื่มยากเล็กน้อย
 
และนี่คือผลสรุปจากผลการศึกษานี้ !
จะเห็นว่านมวัวนั้นเต็มไปด้วยปริมาณโปรตีน และแคลเซียมซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย ที่นมพืชต่างๆ ไม่สามารถทดแทนได้เต็มร้อยเปอร์เซนต์ โดยเฉพาะแคลเซียมที่ยิ่งอายุมากยิ่งมีน้อยลง เพราะฉะนั้นแล้วถ้าคุณเลือกที่จะไม่ดื่มนมวัวแต่อยากดื่มนมพืช แนะว่าควรให้เป็นการสลับกันดื่มจะดีกว่า หรือสำหรับใครที่แพ้แล็กโทสในนมวัว นมพืชคงเป็นตัวเลือกที่เวิร์คสำหรับคุณ แต่จะต้องหาสารอาหารทดแทนจากอย่างอื่นร่วมกันไปด้วย


 
-->