รีวิวผ่าตัดริดสีดวง รู้งี้ผ่าไปตั้งนานแล้ว

ใครชอบอั้นมาฟังทางนี้ รู้มั้ยว่าเวลาที่เราอั้นอึบ่อยๆ จนเคยชินและเป็นนิสัยอาจเสี่ยงทำให้เกิดริดสีดวงได้เชียวนะ และด้วยพฤติกรรมแบบนี้ที่ทำมาตลอดหลายๆ ปี วันดี คืนดี อาจต้องถึงขั้นผ่าตัดริดสีดวงแบบเราเลยก็ได้ แต่ก็อย่าเพิ่งตกใจว่าถึงขั้นผ่าตัดเลยเหรอ เพราะจริงๆ แล้วการรักษามีหลายวิธีมาก และการผ่าตัดในสมัยนี้ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีทางการแพทย์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลย การพักฟื้นก็ไม่นาน บอกได้คำเดียวว่า “อย่าอายที่จะไปหาหมอ อย่าปล่อยไว้แบบเรา”


ต้องเกริ่นก่อนว่าเราเป็นคนที่เคยทำงานออกอีเว้นท์อยู่บ่อยๆ จนมาถึงปัจจุบันเราก็ทำงานที่ต้องเจอผู้ใหญ่บ่อย จนหลายๆ ครั้งเวลาที่เราปวดหนัก (ก็คือปวดอึนั้นแหละครับทุกคน) เราจะอั้นไว้ตลอด ไม่ว่าจะมาแรงแค่ไหนเราก็อั้น!! เราสู้มาตลอดกับการอั้นอึ อั้นจนหายปวดไปเอง เวลาจะอึทีนึงก็ประมาณ 3-4 วัน แล้วทุกครั้งก็จะท้องผูกตลอด เบ่งทีก็บาดก้นที เพราะอึมันแข็ง เจ็บก้นจนชินชาไปเลย คือเรียกว่าเป็นพฤติกรรมแบบนี้อยู่เกือบ 10 ปี 

จนกระทั่งพฤติกรรมที่เราทำแบบนี้อยู่เป็นประจำ มันก็ค่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายมีติ่งค่อยๆ ยื่นออกมาจากก้น นั่นก็คือริดสีดวงยังไงล่ะ แต่…ในตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดจะไปรักษาหรืออะไรหรอก คิดแค่ว่าเดี๋ยวกินยาก็คงหายไปเองแหละมั้ง 
และแล้วเหตุการณ์ริดสีดวงแตกครั้งแรกก็เกิดขึ้น จังหวะนั้นคือเรากำลังจะปลดทุกข์อย่างสบายใจ พอนั่งไปนั่งมาเหมือนเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆ ร้อนๆ ไหลออกมาจากก้น ด้วยความอยากรู้ ก็ก้มลงไปดู ต๊กกกใจ!! เอ้าา! เลือดไหลนี่หว่า ตอนนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไง เลยนั่งอยู่อย่างงั้น แล้วก็เอาน้ำฉีดๆๆ ล้างเลือด จนประมาณ 5 นาที เลือดก็ค่อยๆ หยุดไหล แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยนะ ตอนนั้นก็ยัง…ยังไม่คิดจะไปหาหมอเพราะคำว่าอายล้วนๆ เลย

 

พอหลังจากเกิดเหตุการณ์ริดสีดวงแตก ก็มีคนแนะนำให้เราซื้อยาดาฟลอน 500 มาลองกินดู เราก็ไม่รอช้า ด้วยความอยากหายก็จัดยาตัวนี้มากิน เออ มันหายแฮะ ติ่งที่ออกมาจากก้นมันยุบไปเลย หลังจากนั้นมาก็จะซื้อยาตัวนี้มากินตลอด ใช้ยาเป็นตัวช่วยนี้อยู่ได้นานหลายปี แต่สุดท้าย…ยาเริ่มเอาไม่อยู่ เจ้าติ่งตัวปัญหาที่ออกมาจากก้นเรามันเริ่มไม่ยุบแล้วครับทุกคน แต่ในตอนนั้นก็ยังต่อสู้กับติ่งริดสีดวงอยู่นะ เพราะเลือดนักสู้เรามันแรง! สู้โดยการใช้นิ้วของเรานี่แหละ ดันให้มันเข้าไปอยู่ในที่ในทางที่สมควรจะอยู่ ทนฝืนอยู่ได้ไม่นาน เพราะพออึแล้วดันเลือดออกอีกแล้ว แต่รอบนี้เลือดออกนานกว่าเดิม อาการที่แถมมาคือเจ็บมาก เราเลยตัดสินใจไปหาหมอดีกว่ากลัวเลือดจะหมดตัวเอา


เราตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่ รพ.พญาไท 2 หมออธิบายคร่าวๆ ว่าริดสีดวงของคนเราจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือแบบชนิดที่เป็นภายนอก และแบบชนิดที่เป็นภายใน ซึ่งเราเป็นแบบชนิดใน รวมถึงอาการก็จะมีทั้งหมด 4 ระยะด้วย หมอก็ได้วินิจฉัยอาการก็คือเราเป็นระยะที่ 3 เกือบจะระยะที่ 4 แล้ว ซึ่งก็ต้องผ่าตัด หมอแนะนำว่าการผ่าตัดของเคสเราเหมาะกับการผ่าตัดแบบธรรมดาหรือผ่าตัดแบบเปิด หมอได้อธิบายคร่าวๆ ว่าการผ่าตัดสมัยนี้ไม่ได้น่ากลัวเหมือนสมัยก่อนแล้ว มันมีการอัพเกรดขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย หมอพูดแบบนั้นเราก็เบาใจลง พอคุยกับหมอเสร็จเรียบร้อย ก็ตกลงทำนัดเพื่อผ่าตัดเลยครับ



เมื่อถึงวันผ่าตัดก็จะต้องงดน้ำ งดอาหาร 8 ชม. และไปเตรียมตัวที่รพ. พญาไท 2 ประมาณ 8 โมงเช้าเพื่อเตรียมตัวผ่าตัด แล้วพยาบาลก็มาตรวจเช็คร่างกาย วัดความดันอะไรต่างๆ เพื่อเตรียมขึ้นเขียง พอเสร็จปุ๊บ เค้าก็จะเข็นเตียงเราเพื่อเข้าห้องผ่าตัด เมื่อเตรียมการผ่าระหว่างรอหมอ พยาบาลเค้าก็จะจัดแจงท่าเราให้เหมาะสม แล้วก็เอาผ้ามาคลุม ซึ่งวิธีการผ่าก็คือจะมีการฉีดยาชาบริเวณรอบๆ ที่หมอจะผ่าออก และหลังจากนั้นเราก็จะโดนวางยาสลบ ตอนนั้นเราคิดในใจแล้วว่าจะสู้กับยาสลบ ท่องในใจว่า ไม่หลับๆๆๆ แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ตอนผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนั้นเราก็ยังรู้สึกว่ามันยังเจ็บๆ อยู่นิดหน่อย




พอวันรุ่งขึ้นหมอก็มาเช็คอาการ ของเราโดยรวมคือ อาการของเราปกติดี ประมาณ 3 วันแผลก็น่าจะดีขึ้นแล้ว และในระหว่างวันหมอจะให้ยาแก้ปวดกินระหว่างมื้อไปด้วย หรือถ้าเรารู้สึกเจ็บเยอะก็สามารถแจ้งกับพยาบาลได้เลย เดี๋ยวเค้าจะเอายามาให้เราเพิ่ม แต่สำหรับเราคือชิวมาก นอนพักฟื้นสบายๆ ของเราพักฟื้นประมาณ 1 วัน อาการก็ดีขึ้น หมอก็ให้เลือกได้ว่าอยากกลับบ้านหรือจะนอนพักฟื้นอีก 1 คืนก็ได้ เพราะหลังจากผ่าตัดสามารถเดิน เข้าห้องน้ำ ขับถ่าย ทำอะไรเองได้ตามปกติ ซึ่งใครที่กังวลว่ากลัวอึจะโดนแผลแล้วมีเชื้อโรคเนี่ย จริงๆ แล้วขับถ่ายได้ตามปกติเลย ไม่ต้องอั้น แค่เช็ดล้างให้สะอาดและเบามือหน่อย เดี๋ยวหมอเค้าจะให้ยาระบายควบคู่ไปกับยาแก้ปวดกลับบ้านไปด้วย เราเลยตัดสินใจเลือกที่จะกลับบ้านดีกว่า

หมอนัดดูอาการหลังจากผ่าตัดไปแล้ว 1 อาทิตย์ สรุปเลยคือแผลเรายังไม่ค่อยหายดี เมื่อเทียบกับเคสอื่น แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ที่แผลเราหายช้ากว่าคนอื่น เพราะหลังผ่าตัดเราดันไปอั้นอึมา 3 วัน อึเลยจะแข็งๆ หน่อย แผลอาจจะหายยากกว่าคนทั่วไป หมอก็ได้ให้ยามาทาแผล บวกกับแนะนำวิธีดูแลตัวเองเพื่อจะได้ไม่กลับมาเป็นอีก พอคุยกับหมอเสร็จเราก็แอบๆ ถามพวกเดียวกันกับเรา คนที่มาผ่าวิธีเดียวกัน ของเค้าคือแผลเรียบเนียนกริ๊บ! ภายใน 3 วัน สงสัยคงจะเป็นเพราะพฤติกรรมเราจริงๆ แผลเลยหายช้า แต่ยังไงก็ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะไม่ต้องทรมานแล้วววครับ




หลังจากผ่านไป 1 เดือน เราก็ชิวมากแล้วตอนนี้ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ออกกำลังกายได้อย่างเต็มรูปแบบ จะเหงื่อออก เจออากาศร้อนๆ หรือจะเข้าห้องน้ำ ก็ไม่ต้องเอานิ้วคอยดันน้องริดซี่(ดวง) อีกต่อไป ใครที่มีอาการแบบเรา หรือมีพฤติกรรมแบบนี้ ก็ระวังตัวกันไว้ด้วยนะครับ คอยหมั่นกินอาหารที่มีกากใย อย่าอั้นอึนานๆ และคอยหมั่นเช็คสุขภาพช่อง(ก้น)กันด้วยล่ะ !

สนใจแพ็กเกจตรวจประเมินโรคริดสีดวง!
-->