5 เมนูสุดช๊อค... ไม่น่าเชื่อว่าจะก่อมะเร็ง

สายเฮลธ์ตี้ทั้งหลายคงรู้ว่าการจะมีสุขภาพที่ดี ต้องประกอบขึ้นจากการกินดีอยู่ดี อยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม และสามารถจัดการกับเรื่องเครียดที่เข้ามาบั่นทอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

และเพื่อเลี่ยงโรคร้ายอย่าง "มะเร็ง" ก็ยิ่งต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้น ปัจจัยภายนอกอย่างเรื่องสภาพแวดล้อมรอบตัวอาจเลี่ยงได้ยาก สิ่งที่เราจัดการได้คือเรื่องปัจจัยภายใน โดยเฉพาะเรื่องของอาหาร ถ้าไม่ระวังก็อาจก่อโรคได้ แต่บางเมนูก็ยากจะเชื่อ ว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งได้เหมือนกัน... มาดูกันดีบกว่าว่ามีอะไรบ้าง


แซลมอน
เรามีความเชื่อฝังหัวว่า "กินปลาแล้วจะฉลาด" ซึ่งเกิดจากการที่ปลาอุดมด้วยกรดไขมันที่ดีต่อสมอง เรียกว่าโอเมก้า 3 ที่มีอยู่มากในปลาน้ำเย็นอย่างแซลมอน
โอเมก้า 3 จะมีอยู่ในปลาทะเลน้ำลึกซึ่งกินแพลงตอนและปลาตัวเล็กตัวน้อยเป็นอาหาร ทว่าแซลมอนที่เรากินกันอย่างเอร็ดอร่อยเพราะเชื่อในสรรพคุณของมัน ส่วนใหญ่เป็นแซลมอนเลี้ยงซึ่งราคาถูกกว่าแซลมอนที่จับได้จากธรรมชาติ แซลมอนพวกนี้ถูกเลี้ยงด้วยอาหารสังเคราะห์ นอกจากนี้ยังสำรวจพบยาปฏิชีวนะ ยากำจัดศัตรูพืช สารเคมีและสารก่อมะเร็งอื่นๆ ทั้งยังพบพีซีบี (PCBs) หรือ โพลีคลอริเนตไบฟีนิล (Polychlorinated biphenyls) สารเคมีที่พบในอุตสาหกรรม ที่น่าตกใจคือ อาหารของแซลมอนฟาร์มจะเติมเม็ดสีสังเคราะห์ ที่กระตุ้นให้เนื้อเป็นสีชมพูเหมือนปลาที่จับได้ตามธรรมชาติ
หากใครคิดว่า ฉันมีเงินพอจะกินแซลมอนตามธรรมาติ ก็ขอให้คิดใหม่ เพราะจากการสำรวจก็พบว่าแซลมอนธรรมชาติมีการปนเปื้อนสารปรอทเหมือนกัน




ป๊อบคอร์นสำเร็จรูป
เป็นของว่างที่มาคู่กับการดูหนัง ซึ่งปัจจุบันตามซูเปอร์มาร์เก็ตก็มีป๊อบคอร์นสำเร็จรูปวางขาย เราเพียงแค่เลือกรสชาติที่ชอบ แล้วเอามาอุ่นในเตาไมโครเวฟ แป๊บเดียวก็ได้กิน แต่หารู้ไม่ว่าแฝงไว้ด้วยอันตราย เพราะมีการพบว่าวัสดุเคลือบด้านในถุงป๊อบคอร์น พบสาร perfluorooctanoic acid (PFOA) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งชนิดหนึ่ง เป็นพิษต่อตับ ระบบภูมิคุ้มกัน และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์ จากการวิจัยพบว่าสารเคมีชนิดนี้เชื่อมโยงกับการเกิดมะเร็งบางชนิด ทั้งตับ ไต กระเพาะปัสสาวะ และมะเร็งต่อมลูกหมาก
จริงๆ แล้วป๊อบคอร์นไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่ต้องมั่นใจว่าวัตถุดิบหลักอย่างข้าวโพดไม่ได้มาจากการตัดต่อพันธุกรรม ไม่ได้อบด้วยเตาไมโครเวฟ ไม่เติมสารปรุงรสทั้งเนย นม น้ำตาล เกลือมากเกินไป เพราะโดยธรรมชาติแล้วข้าวโพดเป็นธัญพืชที่ให้พลังงานต่ำ แต่กากใยสูง



 
น้ำมันพืช
ตามปกติ น้ำมันพืชที่ทิ้งไว้นานจะเหม็นหืน เก็บไว้ไม่ได้นาน ทำให้บรรดาผู้ผลิตคิดวิธียืดอายุการใช้งาน โดยนำน้ำมันพืชไปผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนเพื่อเปลี่ยนโมเลกุลของกรดไขมันเป็นชนิดอิ่มตัวเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา ไม่เหม็นหืนเร็ว กระบวนการนี้ทำให้เกิดไขมันทรานส์ (Trans fat) ซึ่งองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา บอกว่าเป็นอันตรายต่อร่างกาย ทำให้ระดับคอเรสเตอรอลสูงขึ้น เสี่ยงโรคหลอดเลือด ทำให้เกิดการระคายเคืองและทำให้เกิดอนุมูลอิสระ เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคมะเร็งด้วย
ถ้าอยากเลี่ยงไขมันทรานส์ ก็ควรลดของคาว-หวานที่มีส่วนประกอบของน้ำมันพืชและเนยเทียม เช่น ขนมอบที่ผลิตคราวละมากๆ อย่างคุกกี้ แครกเกอร์ ยังไงล่ะ




แป้งและน้ำตาลขัดสี
ใครๆ ก็รู้ว่าข้าว แป้ง น้ำตาล หากบริโภคมากเกินกว่าความต้องการของร่างกายก็ทำให้อ้วน ทั้งนี้ ในกระบวนการผลิตที่ผ่านการขัดสีนั้น ทำให้สูญเสียสารอาหารและเส้นใย เป็นต้นเหตุให้ท้องผูกได้... แต่กระบวนการขัดสียังร้ายกว่านั้น กระบวนการทางเคมี ที่ทำให้แป้งมีสีขาวละมุนทำให้เกิดการก่อตัวของสาร Alloxan ซึ่งทำให้เกิดโรคอ้วน นักวิจัยจะให้สารนี้กับสัตว์ที่แข็งแรงเพื่อให้เป็นโรคอ้วน เพื่อที่จะศึกษาวิธีการรักษาผู้ป่วยโรคอ้วนอีกที ไม่งงเนอะ
นอกจากนี้แป้งขัดสียังมีดัชนีน้ำตาลสูงซึ่งเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด และเซลล์มะเร็งมักจะก่อตัวได้ดีจากคนที่น้ำตาลในเลือดสูง ดังนั้นถ้าอยากลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง ก็ควรเลี่ยงแป้งและน้ำตาลขัดสี ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีทางเลือกให้คุณมากมาย เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการขัดสี หรือโฮลเกรน ทั้งข้าวกล้อง น้ำตาลทรายแดง ขนมปัง ซีเรียล พาสต้า คุกกี้ แครกเกอร์




มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ
เราเชื่อว่านี่เป็นของว่างของใครหลายคน เพราะมีให้เลือกหลากรสหลายรูปแบบ แถมราคาไม่แพง เรียกว่ารสชาติถูกปากราคาถูกใจ โดยมองข้ามไปว่าในกระบวนการผลิตนั้นมีการเติมสารแต่งสี กลิ่น รส รวมถึงสารกันบูดจำนวนมาก ด้วยระดับโซเดียมที่สูงมากยังเป็นต้นเหตุให้เกิดความดันโลหิตสูง หากบริโภคมากเกินปาจเป็นต้นเหตุของรีคอ้วนเพราะให้พลังงานสูงมาก แล้วกระบวนการทอดยังทำให้มันอุดมด้วยไขมันทรานส์ที่เรารู้ข้อเสียของมันเป็นอย่างดี
สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกาบอกว่า จากการที่ถูกทอดในอุณหภูมิสูง ทำให้เกิดสารก่อมะเร็งชื่อว่า Acrylamide ที่จากการทดลองในสัตว์พบว่าทำให้เกิดมะเร็งบางชนิด ทางเลือกที่เฮลธ์ตี้กว่าคือ ลองแอบเปิ้ลหรือกล้วยอบแห้ง จะดีต่อสุขภาพมากกว่า

รู้อย่างนี้แล้ว เราก็หวังว่าคุณจะไม่ทำร้ายตัวเองด้วยการตามใจปากจนเสี่ยงโรคมะเร็ง เพราะการป่วยของคุณเพียงคนเดียว อาจทำให้พ่อแม่ของคุณเสียใจแบบยากจะอธิบายได้เลยล่ะ 



 
-->