Wim Hof Breathing เทคนิคการหายใจแบบมนุษย์น้ำแข็ง ที่ต้องลองซักครั้งในชีวิต!

เคล็ดลับการหายใจ ทุกวันนี้เราสามารถเห็นได้เยอะมากตามอินเทอร์เน็ต แต่จะมีอยู่เคล็ดลับหนึ่งที่เราเจอแล้วอยากบอกต่อมากๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้เราหลับสบายขึ้นแล้ว ยังทำให้การทำงานสบายกว่าเดิม และออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพดีขึ้นด้วย กับการหายใจแบบ Wim Hof ที่ก็ได้คุณ วิม ฮอฟ เองนั่นแหละเป็นผู้คิดค้นขึ้น



Wim Hof คือใคร?
วิม ฮอฟ (Wim Hof) เขาคือนักกีฬาเอ็กซ์สตรีมชาวดัตช์ที่มีฉายาว่า “มนุษย์น้ำแข็ง” ผู้ที่ทำลายสถิติในการต้านทานความหนาวแบบหลุดโลกมาแล้วหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น การปีนเขาคิลิมันจาโรโดยที่ไม่ใส่เสื้อ ใส่แต่กางเกงขาสั้นและไม่ใช้ถังออกซิเจนเลยตอนปีน หรือจะเป็นการแข่งวิ่งมาราธอนที่อาร์กติกเซอร์เคิล และยืนอยู่ในภาชนะที่มีเต็มไปด้วยน้ำแข็งนานถึง 112 นาที ซึ่งจากการที่เขาใช้น้ำแข็งเข้ามาช่วยในการบำเพ็ญเพียร เอ๊ย! ฝึกฝนร่างกายนี้เอง ทำให้ Wim Hof ค้นพบวิธีการหายใจแบบใหม่ ที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา จนกลายเป็นที่มาของ Wim Hof breathing method นั่นเอง

โดยหลักการทำ Wim Hof breathing จะมีหลักการทำอยู่ 3 ข้อ ที่เรียกว่า 3 แกนหลักๆ (3 Pillars) ได้แก่
 

• การหายใจ ที่เป็นเทคนิคหลักของการฝึก ผู้ฝึกจะต้องฝึกการหายใจที่ทำให้เกิดภาวะหายใจเร็วกว่าปกติ
• ความเย็นบำบัด คือขั้นตอนที่ผู้ฝึกจะต้องเอาตัวเองไปปะทะความหนาว โดยเริ่มจากอาบน้ำด้วยน้ำเย็นจนจบด้วยการทำ Ice baths ซึ่งก็จะนำเทคนิคการหายใจข้างบนมารวมในขั้นนี้ด้วย เพื่อช่วยให้ร่างกายฝึกฝนการต้านทานความเย็นได้ดีขึ้น
• ความมุ่งมั่นและตั้งใจ ถือเป็นแกนหลักที่รองรับ 2 แกนข้างต้นอีกที เพราะต้องใช้ทั้งความอดทนและความอึด ถึก และความแน่วแน่ในการฝึกการหายใจในสไตล์ Wim Hof

Wim Hof ดียังไง ทำไมต้องยกนิ้วไห้
ขอยกเนื้อหาจากทางเว็บไซต์ Wim Hof method มาเล่าให้ฟังเองเลยละกัน ซึ่งเขาเคลมเอาไว้ค่อนข้างเยอะมากๆ แต่เราเลือกมาแค่ส่วนหนึ่งก่อน นั่นก็คือ
 

• ช่วยเติมพลังให้ในทุกๆ วัน
• ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ โดยกระตุ้นเซลล์ไขมันสีน้ำตาลที่จะดึงไขมันสีขาวออกมาใช้งานมากขึ้น
• ช่วยลดระดับความเครียดทางกาย ความตึงเครียด และการอักเสบของร่างกาย
• ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแข็งแกร่ง
• ช่วยให้หลับสบาย ไร้กังวล
• ช่วยให้มีสมาธิ จดจ่อดีขึ้น โฟกัสงานได้แบบเต็มสูบ

ถ้าใครงงว่า เห้ย! ฝึกหายใจแค่นี้มันช่วยอะไรได้เยอะขนาดนี้เชียวเหรอ ขอบอกว่าจนถึงตอนนี้มีการทดลองที่ใช้เทคนิคการหายใจของ Wim Hof มาทดลองแล้วประมาณหนึ่ง ทั้งที่ทดลองกับ Wim Hof เอง หรือทดลองกับคนอื่นๆ อย่างการทดลองที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ในปี 2014 ที่เอาผู้เข้าทดลองมาแบ่ง 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งฝึกหายใจแบบ Wim Hof ส่วนอีกกลุ่มไม่ได้ฝึกอะไรเลย แค่หายใจปกติ แล้วเอาทั้งสองกลุ่มไปผจญภัยในสถานที่ที่หนาวเหน็บ ตามด้วยฉีดสารพิษ Endotoxin (เป็นสารพิษที่ทำให้เป็นไข้) ทั้งสองกลุ่ม ซึ่งพบว่า กลุ่มที่ฝึกการหายใจแบบ Wim Hof มีระดับสารสื่อการอักเสบ Cytokine ลดลง 50% และสารต้านการอักเสบ Interleukin-10 สูงขึ้น 200% 


อยากรู้ก็ต้องลอง 7 สเต็ปฝึกหายใจแบบ Wim Hof
 

• หาที่นั่งเงียบๆ สงบๆ สบายๆ
• หายใจเข้าลึกๆ ผ่านจมูกหรือปากเข้าไปถึงหน้าอกและช่องท้อง แล้วกลั้นหายใจไว้
• หายใจออกผ่านทางปาก แล้วรีบหายใจเข้าอีกรอบเร็วๆ
• หายใจเข้า-ออก วนซ้ำไปมา 30-40 รอบ ในช่วงเวลาสั้นๆ
• พอครบรอบหายใจครั้งสุดท้าย ให้หายใจเข้าและออกเลยไม่ต้องกลั้น กลั้นหายใจไว้จนรู้สึกอยากจะหายใจเข้าอีกครั้ง
• หายใจเข้าลึกๆ อีกครั้งจนหายใจเข้าสุดกว่านี้ไม่ไหวแล้ว กลั้นหายใจ 15 วินาที ค่อยปล่อยอากาศออก ถือว่าจบรอบแรก
• ทำซ้ำใหม่ 3-4 ครั้ง

ถ้าทำเองแล้วมันดูน่าเบื่อ ลองทำตามคลิปวิดีโอของทาง Wim Hof ที่เขาไกด์มาไว้ให้นี้ได้เลย >> https://www.youtube.com/watch?v=tybOi4hjZFQ 

ข้อควรระวัง เดี๋ยวหาว่าไม่เตือน!
เคยมีรายงานว่าบางคนที่ฝึกการหายใจแบบ Wim Hof จะมีอาการเวียนหัว หน้ามืด หรือเป็นลมเวลาที่ต้องหายใจถี่ๆ ติดต่อกัน เพราะเป็นเทคนิคการหายใจที่เลียนแบบภาวะ Hyperventilation ซึ่งทางคุณ Wim Hof ก็ได้แนะนำว่าคนที่จะทำ ห้ามทำในสถานที่ใกล้แหล่งน้ำ (ริมสระ หนอง บึง แม่น้ำ) ขณะขับรถ หรือกำลังอยู่ในกิจกรรมที่ต้องใช้สติและสมาธิเป็นอย่างมากอยู่ และก็มีบางคนที่ฝึกการหายใจแบบนี้แล้วรายงานว่ามีอาการหลับยาก คนที่มีแนวโน้มเป็นภาวะหายใจเร็วเกินหรือเป็นโรควิตกกังวลจะรู้สึกแพนิกหรือวิตกกังวลอย่างรุนแรง

บอกเลยว่าการหายใจแบบ Wim Hof เป็นเทคนิคการหายใจที่มีประโยชน์ค่อนข้างเยอะ ยังไงก็แล้วแต่ ใครที่สนใจอยากลองฝึกหายใจแบบ Wim Hof ควรลองศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และฝึกอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ส่วนใครทำแล้วได้ผลยังไง อย่าลืมมาแชร์กันนะ