อายุเลข 3 ต้องเลี่ยง...กิน

อยู่เฉยไม่ได้แล้ว...หลังจากที่มีการทดลองของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าการกินไส้กรอกหรือฮอทด็อก 1 ชิ้น จะทำให้อายุ สั้นลงถึง 36 นาที ซึ่งเรื่องนี้ถึงจะยังไม่ได้รับการยืนยันที่แน่ชัดจากผู้เชี่ยวชาญแต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้สาวเลข 3 อย่างเราต้องหยุดคิดอีกทีก่อนจะหยิบของอร่อยเข้าปาก 



โยเกิร์ตไม่ได้ดีเสมอไป
แม้จะเป็นอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ แต่โยเกิร์ตที่มีรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นรสสตอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ เหล่านี้ มีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่มาก โดยเมื่ออายุมากขึ้น การลดปริมาณการบริโภคน้ำตาล เป็นเรื่องจำเป็น เพราะจริงๆ แล้ว ในอาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง ซอสมะเขือเทศ ก็มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเติมความหวานเพิ่มเข้าไปอีก แล้วยิ่งถ้าลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลรายวันลงได้ ก็จะยิ่งดีกับร่างกายในวัย 30 อัพ...มากกว่า หรือถ้าจะกินจริงๆ ให้เลือกเป็นกรีกโยเกิร์ตยังจะดีกว่า เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน B โพแทสเซียม และแคลเซียม

มื้อเช้าต้องใส่ใจ
ต่อให้จะเร่งรีบแค่ไหน แต่มื้อเช้าก็ยังต้องให้ความสำคัญ จะกินง่ายๆ แค่พอให้จบไปไม่น่าดี เพราะถึงแม้ว่าการกินขนมปัง ไส้กรอกเป็นอาหารเช้า อาจจะดูอินเตอร์และสะดวกรวดเร็ว แต่การกินสิ่งเหล่านี้ในตอนเช้า จะส่งผลต่อน้ำตาลในเลือด ต่อให้ช่วงแรกที่กินจะยังไม่มีปัญหาสุขภาพ หรือเกิดคววามผิดปกติใดๆ แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อไหร่ที่ถึงช่วง สว อาการจะค่อยๆ ส่งผลกระทบแล้วถึงจะค่อยคิดได้ เพราะมีการวิจัยพบว่า การรับประทานคาร์โบไฮเดรต ที่เพิ่มน้ำตาลเข้าไปนั้น จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการโรคหัวใจได้



ของหวานเป็นภัย
ของหวานถึงจะดีต่อใจ แต่ถ้ากินบ่อยไปก็เตรียมทำใจได้เลย โดยเฉพาะความหวานจากน้ำอัดลม ซึ่งได้มีผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารของสหรัฐอเมริกาบอกว่า ไม่เพียงแต่จะอุดมไปด้วยน้ำตาล ที่เป็นอุปสรรคของคน “อยาก” มีลูกแล้ว ยังจะส่งเป็นตัวกระตุ้นและทำให้เกิดโรคอีกหลายชนิดตามมาด้วย เช่นเดียวกับเครื่องดื่มรสหวานอื่นๆ อย่างชา กาแฟ ซึ่งรสหวานจะทำให้แก่เร็ว ยิ่งถ้าดื่มทุกวันๆ ในปริมาณมาก ก็จะมีผลต่อคุณภาพของการนอน และยิ่งทำให้หน้าวิ่งนำอายุไปอีก ส่วนขนมนมเนย ของโปรดสำหรับเด็ก...และผู้ใหญ่ (หลายคน) ที่ติดใจมาตั้งแต่เด็กนั่นก็ตัวดี เพราะเป็นที่มาของพุงย้อยๆ แบบไม่ต้องสงสัยเลย

Sugar-Free ก็ใช่ว่าจะดีนะ
ถึงจะเลี่ยงน้ำตาลไปใช้สารทดแทนความหวานพวกที่เป็น Sugar-Free แทน แต่เมื่ออายุเข้าเลข 3 การทำงานของตับจะเริ่มถดถอย ไม่เต็มร้อยเหมือนเดิม ซึ่งความหวานเหล่านี้ถ้าร่างกายได้รับมากเกินไป ทำให้เผาผลาญไม่หมด จะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์ ทำให้นอกจากจะอ้วนลงพุงแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันพอกตับด้วย เพราะเมื่อน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายจะตรงไปที่ตับ แต่ร่างกายจะดึงพลังงานจากส่วนอื่นไปใช้งานก่อน ดังนั้นทางที่ดีไม่ว่าจะแท้หรือเทียมถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องทำงานหนักเกินไป

แอลกอฮอล์ใช้เฉพาะฆ่าเชื้อโรค...ดีกว่า
สาวๆ สายดริ๊งสายดื่มถึงเวลาวางแก้วลงได้แล้ว เพราะยิ่งอายุมากขึ้น การทำงานของระบบการเผาผลาญในร่างกายก็ยิ่งแย่ลง ดูได้จากตอนเป็นสาว...วัยรุ่นที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แต่เมื่อเข้าเลข 3 เมื่อไหร่ ขนาดแค่หายใจยังอ้วนขึ้นได้เลย ยิ่งเป็นแอลกอฮอล์ไม่ต้องพูดถึง เพราะกว่าที่ร่างกายจะกำจัดแอลกอฮอล์ออกไปได้หมดนั้น ต้องผ่านกระบวนการทำงานอย่างหนัก ไม่อย่างนั้นแล้วเราคงไม่เราไม่ต้องนั่งแปลกใจว่าทำไมตอนสาวๆ ถึงคอแข็ง หรือถ้ายังไม่เชื่อให้ลองตื่นมาส่องกระจกดูสภาพตัวเองตอนเช้าหลังจากที่ดื่มหนักดู แล้วตอบตัวเองอีกครั้ง...ว่ายังไหวมั้ย

ถ้าอร่อยปากแล้วต้องลำบากทีหลังก็อย่าหากินเลย!
-->