มั่นใจ vs มั่นหน้า ทำไงดีเมื่อ 'ภัยความมั่น' มาเยือนออฟฟิศ

อย่างที่รู้กันว่าออฟฟิศเป็นสถานที่ที่รวมคนมากหน้าหลายตามาทำงานร่วมกัน แล้วมันก็จะมีคนหลายประเภทเลยที่เราอาจรู้สึกว่าไม่อยากร่วมงานด้วยเลย ไม่สบายใจเลย หนึ่งในนั้นคือคนที่มี “ความมั่นใจเกินไป” จนกลายเป็น “มั่นหน้า” ถึงแม้ทั้ง 2 คำนี้จะมาจากความมั่นเหมือนกัน แต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว

 
แล้วอะไรคือเส้นบาง ๆ ที่กั้นระหว่าง “มั่นใจ” กับ “มั่นหน้า”
 
ลักษณะของคน “มั่นใจ” คือการเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองเสมอและเชื่อว่าความสามารถเหล่านั้นจะพาไปอยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จได้ ความมั่นใจนี้ทำให้รู้สึกปลอดภัยเลยมีโฟกัสกับตัวเองโดยไม่ได้มานั่งกังวลว่าคนอื่นจะมองเรายังไงกันนะ? ทำแบบนี้จะเป็นที่ยอมรับหรือไม่? ถึงคนอื่นจะคิดยังไงก็ไม่สามารถมาลดคุณค่าในตัวเองได้นั่นเอง ในที่ทำงานก็สามารถแยกคนเหล่านี้ได้ชัดเจนเลยหล่ะ พวกเค้ามักจะกล้าแสดงออก พูดจาเสียงดังฟังชัด ฉะฉาน กล้าแสดงออกไอเดียตัวเองและรับฟังความเห็นของคนอื่นอยู่เสมอ แล้วจะเห็นได้ชัดเลยเวลาประชุมหรือพรีเซ้นต์งาน
 
ส่วนคน “มั่นหน้า” นั้นพวกเค้าก็มีความมั่นใจในตัวเองเหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่มันมากเกินไปจนทำให้มองข้ามข้อเสียเพื่อมองเห็นแต่ข้อดีของตัวเองเท่านั้น ไม่ต่างกับการมีอีโก้หรืออัตตามหาศาลเลย เพราะโลกหมุนรอบฉัน เพราะไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปกว่าฉัน ฉันจึงไม่ต้องการคำแนะนำใดใดหรือปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานอะไรเลย อีโก้พวกนี้มีอยู่จริงนะจนเผลอไปลดทอนคุณค่าในตัวคนอื่นอยู่บ่อย ๆ 

 
เมื่อความ Toxic มาในฉบับเพื่อนร่วมงานมั่นหน้า
 
คนมั่นหน้าต่างกับคนที่มีความมั่นใจอย่างสิ้นเชิง อย่างที่ได้กล่าวไปเลยคุณค่าในตัวพวกเค้าค่อย ๆ หายไปทีละนิดจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวตนของตัวเองอยู่ตรงไหน การที่คนเหล่านี้ใช้อีโก้เหยียบย่ำคนอื่นเพื่อดันตัวเองขึ้นไปนั้นย่อมทำให้เพื่อนร่วมงานไม่ชอบหน้า สร้างความรำคาญ หลาย ๆ ครั้งถึงขั้นสร้างความเดือดร้อนโดยไม่รู้ร้อน รู้หนาว ไม่รู้ตัวและไม่รู้สึกผิดด้วยซ้ำ เมื่อหวยออกที่เราต้องไปร่วมงานกับคนที่มีนิสัยแบบนี้ หรือในทีมมีคนแบบนี้อยู่ย่อมสร้างความลำบากใจในการทำงานแน่นอนแถมทำลายบรรยากาศดี ๆ ในที่ทำงานอีก

 
เรียนรู้ที่จะลดอีโก้ เพื่อความก้าวหน้าในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
 
บางครั้งเราอาจไม่รู้ตัวว่าตอนนั้นเรากำลังมีความมั่นใจจริง ๆ หรือเป็นเพียงอีโก้เท่านั้น เพราะเมื่อไหร่ที่ความมั่นใจมันล้ำเส้นกลายเป็นความมั่นหน้าแล้วล่ะก็ เหรียญสองด้านนี้แสดงผลลัพธ์ด้านผลเสียมากกว่าแน่นอน เพราะฉะนั้นเรามีวิธีเรียนรู้สร้างความมั่นใจ ลดอีโก้ เพื่อผลดีระยะยาวกับตัวเองและเพื่อนร่วมงานมั่นหน้ามาฝาก
 
1. เข้าใจก่อนว่าคำว่า “Perfect” ไม่มีอยู่จริง
ความสมบูรณ์แบบเป็นเพียงคำที่คนนิยามถึงความไร้ที่ติเท่านั้น ซึ่งในชีวิตจริงเป็นไปไม่ได้เลยที่ทุกอย่างจะไม่มีความผิดพลาด อยากให้ทุกคนคิดว่าการผิดพลาดคือการเรียนรู้ เหมือนบททดสอบหนึ่งในชีวิตให้เราเรียนรู้ที่จะก้าวข้ามและเป็นประสบการณ์กับตัวเอง ดังนั้น การทำงานของเราหรือของเพื่อนเกิดไม่เป็นไปดั่งใจหวังขึ้นมาก็ไม่จำเป็นต้องชี้หน้าหาคนรับผิดเสมอไป โฟกัสไปที่การได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดีกว่า มันต้องมีส่วนไหนที่สามารถพัฒนาได้อีกแน่ ๆ

2. อย่านิ่งเฉยต่อคนมั่นหน้า
หลายคนเลือกที่จะเลี่ยงหรือไม่ยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนคนนั้นแต่หารู้ไม่การที่เราไม่ take action อะไรเลยก็เหมือนส่งเสริมให้เค้าทำพฤติกรรมแบบเดิมอยู่นั่นแหละ การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญนะ ดังนั้นการพูดคุยกับเพื่อนคนนั้นอย่างตรงไปตรงมา แจ้งให้เค้าเห็นถึงปัญหาของพฤติกรรมแบบนี้ ผลเสีย ความรู้สึก บรรยากกาศของทีมด้วยเพื่อไม่เป็นการเบลมให้ร้ายเค้าเกินไป เราเชื่อว่าทุกคนไม่อยากเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่คนอื่นไม่อยากร่วมงานด้วยหรอก
 
3. ใช้การสงบสติอารมณ์เข้าสู้
แน่นอนว่าพฤติกรรมของคนมั่นหน้าทำให้เราหงุดหงิดหัวใจ คันยุบยิบที่ปาก อยากจะตะโกนตอบโต้ซะเหลือเกิน ลองมองให้ไกลกว่านั้นดีกว่า ถ้าเราเผลอไม่ระวังใช้อารมณ์ไปสู้เนี่ยเราจะกลายเป็นคนยังไง อยากให้ฝึก EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งเป็นอาวุธที่สำคัญที่จะจัดการกับคนเหล่านี้เหมือนเชือดนิ่ม ๆ ได้เลยล่ะ 
 
4. โลกไม่ได้หมุนรอบใครทั้งนั้น
เลิกตัดสินถูกผิดแบบที่ตัวเองถูกแล้วคนอื่นผิดเสมอ ในการทำงานเราไม่จำเป็นต้องได้รับคำชมตลอดเวลา เอาเวลาที่นั่งคิดอะไรเหล่านี้มาตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ตั้งใจพัฒนาตัวเองและทำงานอย่างมีความสุขร่วมกับเพื่อน ๆ จะดีกว่านะ เพราะบนโลกนี้ทุกอย่างคือการเรียนรู้ คำวิพากย์วิจารณ์หรือฟีดแบ็กต่าง ๆ ไม่ได้เลวร้ายเลยมีแต่จะช่วยให้เราเป็นเราในเวอร์ชั่นที่ไม่หยุดพัฒนานะ
 
สุดท้ายแล้วความมั่นใจเป็นคุณลักษณะที่คนทำงานควรมีและทำให้เราเดินหน้าไปได้ไกลในที่ทำงานนั่นแหละ แต่จงเป็นคนมั่นใจที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเองจะดีที่สุดเลย
-->