สัญญาณของภาวะ Misophonia เมื่อเสียงเล็ก ๆ กลายเป็นความรำคาญไม่สิ้นสุด
ทำไมเสียงเคี้ยวอาหาร เสียงกดปากกา หรือเสียงหายใจบางทีถึงทำให้เรารำคาญจนทนไม่ได้? ถ้ารู้สึกว่าเรื่องแบบนี้อาจไม่ใช่แค่กวนใจ แต่ทำให้รู้สึกโกรธ หงุดหงิด จนอยากจะลุกหนีสถานการณ์ตรงนั้นทันที อาการแบบนี้อาจไม่ใช่เราเรื่องมาก แต่เป็นสัญญาณของภาวะ ‘Misophonia’
Misophonia ที่แปลว่า “เกลียดเสียง”แต่ในเชิงการแพทย์ หมายถึง ภาวะที่บุคคลมีปฏิกิริยาทางอารมณ์รุนแรงผิดปกติต่อเสียงบางอย่าง แม้เสียงนั้นจะไม่ได้ดังหรือรบกวนคนทั่วไป เช่น เสียงเคี้ยว เสียงปากกา เสียงหายใจ เสียงดูดน้ำ ซึ่งอาการนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกลไกสมองและวิทยาศาสตร์ มีงานวิจัยพบว่า คนที่มี Misophonia มีการทำงานของสมอง anterior insular cortex (AIC) และ amygdala ที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นเสียงมากกว่าปกติ
AIC เป็นสมองส่วนที่เชื่อมโยงการรับรู้กับอารมณ์ เมื่อได้ยินเสียง trigger สมองจะแปลความหมายว่า “เป็นภัย” ทำให้เกิดความโกรธหรือความตื่นตระหนกทันที จึงทำให้ร่างกายตอบสนองอัตโนมัติ ไม่ใช่การ ‘คิดมาก’ หรือ ‘ขี้รำคาญ’ ซึ่ง Misophonia แตกต่างจาก Hyperacusis ที่เป็นการแพ้เสียงดังโดยตรง เพราะ Misophonia ไม่ได้เกี่ยวกับความดัง แต่เกี่ยวกับ ชนิดของเสียง
หรือว่าเรากำลังเป็น Misophonia อยู่ลองสังเกตุปฏิกิริยาทางอารมณ์ ว่าเรารู้สึด หงุดหงิด โกรธ เครียด หรือมีอารมณ์ฉุนเฉียว แล้วอยากออกจากตรงนั้นทันที รวมไปถึงอาการทางกาย เช่น ใจเต้นแรง มีเหงื่อออก หายใจถี่ หรือมากถึงขั้นปวดศีรษะ
หรือเราเป็นคนที่พยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ต่างๆ ที่มีเสียง trigger เช่นไม่อยากกินข้าวกับคนอื่น เพราะไม่ชอบเสียงเคี้ยว พยายามใส่หูฟังเพื่อเลี่ยงเสียงแป้นพิมพ์ บางครั้งแสดงอาการ โต้ตอบทันที อย่างการถอนหายใจ หรือบ่นพึมพำออกมา
เสียง Trigger ที่คนเป็น Misophonia มักรู้สึกว่ามันส่งผลกระทบมาก
- เสียงเคี้ยวอาหาร เคี้ยวหมากฝรั่ง
- เสียงดูดน้ำ/ซดน้ำเสียงดัง
- เสียงหายใจ เสียงสูดน้ำมูก
- เสียงคลิกปากกา เคาะนิ้ว เคาะโต๊ะ
- เสียงพิมพ์คีย์บอร์ด เมาส์
- แม้กระทั่งเสียงจากสัตว์เลี้ยง เช่น หมาเลียตัวเอง
อาการ Misophonia ที่ดูเหมือนจะเล็ก แต่เป็นเรื่องใหญ่เพราะสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน อย่างด้านการเข้าสังคม คนที่เป็นอาจเลี่ยงที่จะนั่งกินข้าวกับคนอื่น หรือไม่อยากอยู่ในที่สาธารณะไปเลย ด้านการทำงานหรือการเรียน อาจทำให้ขาดสมาธิอยู่บ่อยๆ และหงุดหงิดง่ายกับเพื่อนร่วมงาน
"ที่สำคัญคือผลกระทบด้านจิตใจ ที่ทำให้รู้สึกผิด โดดเดี่ยว หรือคิดว่าตัวเองแปลก บางทีอาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นมีอาการซึมเศร้าได้ "
ภาวะ Misophonia อาจไม่ใช่สิ่งที่หลายคนคุ้นหู แต่อาจมีหลายคนกำลังเผชิญอยู่ มันคือความจริงที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต การทำความเข้าใจภาวะนี้ ไม่แค่ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่ยังทำให้คนรอบข้างมองเห็นและให้การสนับสนุน ที่สำคัญคือ ถ้าอาการรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยให้เราเรียนรู้วิธีรับมือ และอยู่ร่วมกับเสียงเหล่านี้ได้อย่างสมดุลมากขึ้น