อยากเที่ยวตลอดเวลา หรือว่าเป็นโรค Dromomania กันแน่?

“ก็ฉันชอบเที่ยวมันผิดหรือไง” ถ้าเจอใครมาร้องเพลงถามแบบนี้ นี่ก็จะขอตอบเลยว่าคงไม่ผิดหรอก เพราะได้มีรายงานผลวิจัยจาก Global Wellness Institute ชี้ชัดว่าประโยชน์ของการท่องเที่ยวช่วยสร้างศักยภาพให้กับระบบความคิด และยังช่วยสร้างทัศนคติที่ดี ในการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ แต่เอ๊ะ! ถ้าอยากเที่ยวอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่เพิ่งจะกลับมาหมาดๆ แบบนี้มันจะเกินปุยมุ้ย หรือจะเป็นเพราะโรคทางจิตที่ทำให้ติดเที่ยวกันนะ 


 
“โรคอยากเที่ยวตลอดเวลา” มีจริงหรือคิดไปเอง?
Dromomania  หรือโรคที่อยากเที่ยวตลอดเวลา เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2283 โดยมีการพูดถึงคำนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก ใช้เรียกอาการของผู้ประสบภัยที่ไม่ต้องการหยุดเดินทาง แถมยังพร้อมที่จะเปย์และเทได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะงาน เงิน บ้าน สัตว์เลี้ยง หรือแม้กระทั่งคนในครอบครัว เพื่อทำตามความต้องการของตัวเองที่จะออกเดินทางท่องเที่ยว ยกตัวอย่าง ในปี ค.ศ. 1886 ที่มีชาวฝรั่งเศสอายุ 26 ปีคนหนึ่งชื่อว่า อัลเบิร์ต ดาดาส ที่อยู่ดีๆ ก็หายตัวไปเฉยๆ นานนับปี โดยที่ไม่มีรู้เลยว่าเขาไปไหน ก่อนจะถูกเปิดเผยทีหลังว่าเขาใช้เวลาออกเดินทางไปทั่วทวีปยุโรป ด้วยกำลังขา และเงินเท่าที่มีติดตัว ณ ขณะนั้น จนแพทย์ได้วินิจฉัยลงความเห็นว่าเขามีอาการทางจิต คือป่วยเป็นโรค Pathological Tourist หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Dromomania นั่นเอง



เช็คสิ! เช็คสิ้! มีอาการแบบนี้บ้างไหม
น้อยคนนะที่จะไม่ชอบการเดินทางท่องเที่ยว ก็ในเมื่อการออกเดินทางไปเที่ยวในที่ต่างๆ นั้นนำมาซึ่งความสุขและผ่อนคลาย แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าบางคนไม่ใช่แค่ชอบเที่ยวธรรมดานี่ล่ะปัญหา ที่ต้องมาเช็กกันดูสักหน่อยว่ามีอาการเหล่านี้บ้างไหม 
● จัดกระเป๋าเตรียมพร้อมตลอดเวลา ชนิดที่ว่าสามารถออกเดินทางได้ ณ บัดนาว
● เป็นมือโปรในการเก็บกระเป๋าเดินทาง สามารถจัดเสร็จได้ภายในชั่วพริบตา 
● มีแรงบันดาลใจเดียวในการทำงานคือต้องการหาเงินเพื่อไปเที่ยว
● ในหัวคิดแต่เรื่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา
● รู้สึกหดหู่ใจทุกครั้งที่ต้องเดินทางกลับ
● เริ่มวางแผนการเดินทางครั้งใหม่ ทั้งที่ยังไม่ทันจบทริปปัจจุบันเลย
● มีความสุขที่ได้นอนต่างที่ ยกเว้นบ้านของตัวเอง
● รู้สึกแปลกที่แปลกทางหลังจากตื่นนอน แม้จะนอนอยู่บนเตียงของตัวเอง
● รู้สึกแย่เวลาที่คิดว่าจะต้องอยู่บ้านเฉยๆ ในวันหยุด
● เข้าเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา 
● นอนไม่หลับ ถ้าไม่ได้ยินสัญญาณของการเดินทาง เช่น เสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบิน เป็นต้น
 
ถึงจะไม่ใช่ปัญหา...ใหญ่ แต่ที่แน่ๆ ถ้าปล่อยไว้ก็คงไม่ดีกับสภาพคล่องของเงินในบัญชี แล้วทีนี้จะมานั่งเสียใจที่หลังไม่ได้นะ...บอกก่อน
-->