Co-Parenting เมื่อความสัมพันธ์ของพ่อแม่ส่งผลต่อลูก
เมื่อความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยาไปต่อไม่ได้ หลายคู่อาจตัดสินใจแยกย้ายได้ในทันที แต่ถ้ามีลูกด้วยกัน การตัดสินใจอาจไม่ได้ง่าย หรือขึ้นอยู่แค่กับคนสองคน เพราะไม่ว่าพ่อหรือแม่ก็คงอยากให้ลูกได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และนั่นอาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายบ้านเลือกที่จะเป็น Co-Parenting
Co-Parenting คือ ... Co-Parenting คือการเลี้ยงดูบุตรร่วมกับของพ่อและแม่ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะหย่าร้าง แยกกันอยู่ หรือไม่เคยแต่งงานกัน โดยเน้นที่ ‘ผลประโยชน์สูงสุดของเด็ก’ เป็นหลัก โดยใช้ความร่วมมือ และเคารพในบทบาทของความเป็นพ่อและแม่ของอีกฝ่าย แม้ว่าความสัมพันธ์ในฐานะคู่รักจะจบลงแล้วก็ตาม
จุดเริ่มต้นของแนวคิด Co-Parenting จากการศึกษาข้อมูล พบว่าแนวคิด Co-Parenting นี้ถูกพูดถึงและเป็นที่สนใจมากขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป ที่มีอัตราการหย่าร้างและรูปแบบครอบครัวที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาครอบครัว และนักกฎหมาย เริ่มที่จะผลักดันให้มีการ ‘ร่วมเลี้ยงดูเล็ก’ แทนการมอบให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลี้ยงดูเพียงฝ่ายเดียวนั่นเอง
สิ่งที่เด็กได้ ในการเลี้ยงดูแบบ Co-Parenting การที่พ่อกับแม่เลือกจบสถานะคู่รักแต่ยังคงทำหน้าที่พ่อแม่ร่วมกัน อาจทำให้เด็กได้รับประโยชน์ทั้งด้านจิตใจ อารมณ์และพัฒนาการทางสังคม เพราะสิ่งที่เด็กต้องการได้รับคือความรักและความมั่นคงจากทั้งสองฝ่าย American Psychological Association บอกว่าเด็กที่เติบโตในระบบ cooperative co-parenting มีระดับความเครียดต่ำกว่าและมีความพึงพอใจในชีวิตสูงกว่าเด็กที่พ่อแม่ขัดแย้งกันต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยด้านจิตวิทยาครอบครัว พบว่าเด็กที่ยังคงมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับพ่อแม่ทั้งสองมีอัตราภาวะซึมเศร้าและปัญหาพฤติกรรมต่ำกว่ากลุ่มที่ถูกตัดขาดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบ Co-Parenting จะมีความสามารถด้าน emotional regulation และ conflict management สูงกว่า เพราะเห็นพ่อแม่เป็นตัวอย่างในการสื่อสารและแก้ปัญหาอย่างเคารพกัน
สิ่งที่พ่อแม่ได้ ในวันที่ลดสถานะ นอกจากจะดีต่อลูกแล้ว การเลือกที่จะลดสถานะจากคู่รักเป็น co-parenting ยังดีต่อพ่อแม่เช่นกัน ทั้งในเรื่องของสุขภาพจิตที่ดี ช่วยลดความตึงเครียดและความขัดแย้งในบ้าน ไม่ต้องอยู่ในความสัมพันธ์ที่ทำร้ายกัน และกลับมาทำหน้าที่พ่อแม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเมื่อมีการยุติบทบาทการมีเป็นสามีภรรยากันแล้วเหลือเพียงแค่บทบาทของพ่อและแม่ ทั้งสองคนก็จะสื่อสารกันด้วยเหตุผลมากกว่าอารมณ์ และมีเป้าหมายที่ตรงกันคือเพื่อให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด
สรุปก็คือ Co-Parenting คือแนวคิดในการเปลี่ยนรูปแบบครอบครัวที่ช่วยให้เด็กมีรากฐานอารมณ์ที่มั่นคง พ่อแม่มีสุขภาพจิตที่ดี สามารถสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ทุกคนมีความเชื่อมโยงกันในเรื่องของหน้าที่ความรับผิดชอบที่ชัดเจน และยังสามารถมีชีวิตส่วนตัวได้



