เด็กชอบกัดทุกอย่าง ปกติมั้ย? รู้จักโรคพิก้า (Pica) ในเด็ก

“ลูกชอบหยิบของเข้าปาก ชอบกัดทุกอย่างที่ขวางหน้า” พ่อแม่หลายคนอาจมองว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นเรื่องปกติตามวัย เดี๋ยวโตขึ้นก็คงหายไปเอง จึงทำให้บางครั้งพลาดสัญญาณเตือนสำคัญในช่วงแรก โดยเฉพาะเด็กบางคนยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ พ่อแม่บอกว่า “ห้ามกัด” “ห้ามเอาเข้าปาก” แต่ลูกก็ไม่ฟัง จนทำให้หลายคนเริ่มสับสนว่า พฤติกรรมแบบไหนยังถือว่าปกติ และแบบไหนเริ่มอันตราย



มาทำความรู้จักกับ โรคพิก้า (Pica) ในเด็กโรคพิก้า (Pica) เป็นความผิดปกติด้านพฤติกรรมการกินที่พบได้ในเด็กและคนบางกลุ่ม เด็กที่เป็นพิก้ามักมีความอยากกิน หรือกินสิ่งที่ไม่ใช่อาหารและไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น ดิน ทราย กระดาษ ชอล์ก หรือเศษสีต่าง ๆ พฤติกรรมนี้จะถือว่าเข้าข่ายโรคพิก้าเมื่อ
  • เป็นการกิน สิ่งที่ไม่ใช่อาหาร (non-food items)
  • เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 1 เดือน
  • ไม่ใช่แค่การเอาของเข้าปากเล่นตามพัฒนาการปกติ
แม้พิก้าจะสามารถเกิดขึ้นได้ในเด็กที่มีพัฒนาการปกติ แต่จะพบได้บ่อยในเด็กอายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป ที่ยังมีพฤติกรรมกินของแปลก ๆ ซ้ำ ๆ จนน่ากังวล

สาเหตุของโรคจนถึงปัจจุบัน แพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่นอนของพิก้าได้ แต่ข้อมูลทางการแพทย์พบว่ามีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกัน ได้แก่

1. ภาวะขาดสารอาหารและโภชนาการ
การขาดธาตุเหล็ก (Iron deficiency) และสังกะสี (Zinc deficiency) ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกระตุ้นให้เกิดพิก้าด้วยความรู้สึกอยากกินสิ่งต่าง ๆ และบางครั้งการเสริมธาตุเหล่านี้พบว่าช่วยลดอาการได้ 

2. ปัจจัยด้านพัฒนาการและสมอง
เด็กที่มีภาวะพัฒนาการล่าช้า เช่น ออทิสติก (Autism spectrum disorder) หรือเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา จะมีโอกาสเป็นพิก้ามากกว่าปกติ 

3. ปัจจัยด้านจิตใจและสิ่งแวดล้อม
ความเครียด การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มั่นคง หรือการขาดการดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครอง อาจส่งผลให้เด็กแสดงพฤติกรรมกินสิ่งไม่ใช่อาหารเพื่อความสบายใจหรือความสนใจ 

4. ปัจจัยทางวัฒนธรรม
ในบางพื้นที่หรือกลุ่มวัฒนธรรมมีประเพณีการกินดินหรือสารอื่น ๆ เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งจะไม่ถือว่าเป็นโรคพิก้าถ้าพฤติกรรมนั้นถูกยอมรับตามธรรมเนียมนั้น

เด็กที่เป็นพิก้ามักกินอะไร?เด็กที่เป็นพิก้ามักจะกินสิ่งที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น
  • ดิน ทราย
  • กระดาษ
  • ชอล์ก
  • เศษสี
  • ผมหรือด้าย
  • น้ำแข็ง
พฤติกรรมนี้ต้องเป็นซ้ำ ๆ อย่างน้อย 1 เดือน และไม่ใช่แค่ปากเล่นตามวัย

อาการแทรกซ้อนที่พ่อแม่ควรระวังแม้พฤติกรรมพิก้าอาจดูเหมือนแค่ “นิสัยแปลก ๆ” แต่สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ เช่น

1. ภาวะขาดสารอาหาร: การกินสิ่งที่ไม่มีสารอาหารแท้จริงอาจทำให้เด็กขาดธาตุเหล็กและสารอาหารสำคัญอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโต 

2. พิษและการปนเปื้อน: สารพิษ เช่น ตะกั่วในเศษสี หรือเชื้อจากดิน อาจเข้าสู่ร่างกายจนทำให้เกิดพิษเรื้อรังได้ 

3. ปัญหาระบบทางเดินอาหาร: เศษสิ่งที่ย่อยไม่ได้อาจทำให้ลำไส้อุดตัน หรือเกิดบาดแผลในระบบย่อยอาหารได้ 

4. การติดเชื้อ: การกินดินหรืออุจจาระสามารถนำพาเชื้อพยาธิและแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกาย 

5. ปัญหาฟันและช่องปาก: สิ่งแข็ง ๆ เช่น หิน กระดาษแข็ง อาจทำให้ฟันแตกหรือบาดช่องปาก 

พิก้ากับการเติบโตของเด็กพิก้าไม่ใช่แค่พฤติกรรมซนธรรมดาในเด็กเล็ก ๆ เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่ได้ประเมินดูแล อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจได้ ทั้งนี้เด็กหลายคนสามารถ เติบโตและลดพฤติกรรมนี้ได้เองเมื่ออายุมากขึ้น แต่สำหรับเด็กที่มีพัฒนาการล่าช้าหรือปัจจัยเสี่ยงสูง ควรได้รับการดูแลร่วมกับทีมแพทย์เพื่อความปลอดภัยของเด็ก 

Source:
Nationaleatingdisorders.org
Children's Minnesota
-->