ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการออกกำลังกายดีต่อสุขภาพและเป็นสิ่งที่คนทุกเพศทุกวัยควรทำ แค่เพียงเลือกให้เหมาะกับสภาพร่างกายและข้อจำกัดของแต่ละคน ย่อมได้รับประโยชน์เป็นผลตอบแทนในการลงแรงอยู่แล้ว

คนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย เราก็อยากให้คุณเริ่มหากิจกรรมที่ชอบและเหมาะกับตัวเองเพราะเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่รอไม่ได้จริงๆ ส่วนคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำถึงขั้นเสพติด เราก็อยากให้คุณพักเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัวบ้าง เพราะบางทีการฝืนร่างและบอกว่าตัวเองยังไหว ก็เป็นการทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว

และนี่คือ 8 สัญญาณ ที่บอกว่าวันนี้พักก่อนก็ได้

• มีไข้ เป็นหวัด : ปกติ เรามีอุณหภูมิร่างกาย 36.5-37.5  ℃ เมื่อมีไข้อุณหภูมิจะมากกว่า 37.5 ℃ ซึ่งการออกกำลังกายจะยิ่งเพิ่มอุณหภูมิร่างกายให้สูงขึ้นอีก และถ้าสูงเกิน 41.5 ℃ จะอันตรายที่สุด

และหากเป็นหวัดซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัส การออกกำลังกายจะยิ่งทำให้ร่างกายเกิดความเครียดและต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยากลำบากมากขึ้นแถมอาการอาจแย่ลงอีกต่างหาก... มันก็จริงที่ว่าการออกกำลังกายทำให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้น แต่เมื่อป่วยแล้วก็ควรพักนะ

• เป็นแผล : ถ้าคุณเป็นแผลหรือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแต่คิดว่าตัวเองยังออกกำลังกายไหว เราอยากให้คุณหายดีก่อนเพื่อให้ร่างกายได้พัก แต่ถ้าไม่ร้ายแรงก็อาจไปได้โดยเลี่ยงใช้แรงบริเวณนั้น แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่ตามมาคืออาการแย่ลง ทั้งนี้ ถ้าไม่ยากนั่งอยู่เฉยๆ ลองฝึกโยคะท่าง่ายๆ หรือนั่งสมาธิฝึกจิตระหว่างรอให้อาการดีขึ้นก็ได้

• บาดเจ็บจากการออกกำลังกาย : หากมีอาการเจ็บหรือปวด การเคลื่อนไหวย่อมดีกว่าการอยู่เฉยๆ เพราะช่วยให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหวและมีออกซิเจนไปสู่บริเวณนั้น ทว่าการออกกำลังกายแบบจัดหนักจัดเต็ม ไม่เพียงทำให้เจ็บกว่าเดิม แต่ยังทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดความเครียดมากขึ้น ถ้าไม่อยากนอนเฉยๆ อาจยืดตัวหรือโยคะท่าง่ายๆ ที่บ้านจะดีกว่า ทั้งนี้ หากเป็นอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย 3 วันแล้วยังไม่หาย ก็ควรพักอย่างจริงจัง ให้หายดีเสียก่อน

• เพิ่งผ่าตัด คลอดลูก : แม้หมอจะบอกว่าร่างกายคุณโอเคแล้ว แต่หากคุณรู้สึกว่ายังไม่ไหว ก็ควรดูแลตัวเองให้ “ไหว” จริงๆ ซะก่อน เพราะไม่มีใครเข้าใจร่างกายของเราได้ดีเท่าตัวเราเองหรอก จริงมั้ย

• ถ้ารู้ว่าออกกำลังกายแล้วจะพลาดโอกาสพิเศษ : ถ้าบังเอิญว่าเพื่อนหรือครอบครัวนัดกินข้าว หรือมีอีเวนต์พิเศษที่คุณเฝ้ารอมานานแสนนาน ทว่าดันตรงกับตารางการออกกำลังกายของคุณ เราขอให้คุณเว้นจากการเสียเหงื่อไปสักวัน เพราะการทำสิ่งที่รัก อยู่ท่ามกลางมิตรภาพดีๆ และดื่มด่ำกับสิ่งที่ตรงกับรสนิยม ก็ทำให้คุณ “เฮลธ์ตี้” ได้ไม่ต่างกัน 

• วันนี้แอคทีฟพอแล้ว : ถ้าคุณไปเดินเขา ปั่นจักรยาน หรือฝึกโยคะ นั่นหมายถึงคุณได้ออกกำลังแล้ว ไม่ต้องรู้สึกแย่หากไม่ได้ไปยิมเพื่อยกน้ำหนักหรือวิ่งบนลู่ตามแผนที่วางไว้ จำไว้ว่าไม่ว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ก็ดีต่อร่างกายทั้งนั้นแหละ 

• หมดแรง : ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นให้คุณมีแรงและรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้ แต่ถ้ารู้สึกว่าหมดแรงแล้วจริงๆ นั่นเป็นสัญญาณจากร่างกายว่า “พักร่างบ้างนะจ้ะ” คุณก็ควรนอนอยู่บ้าน เพราะการฝืนตัวเองอาจทำให้บาดเจ็บได้

• กลัวหรือไม่ชอบกิจกรรมที่ทำอยู่ : ถ้ารู้สึกไม่พิสมัยหรือกลัวกิจกรรมที่ทำอยู่ ก็อย่าฝืนใจตัวเอง เพราะความไม่ชอบนั้นย่อมมีเหตุผลซ่อนอยู่ซึ่งคุณก็รู้อยู่ว่าคืออะไร อาจลองกิจกรรมใหม่ๆ ที่ท้าทายร่างกายและจิตใจตัวเอง อาจลองไปต่อยมวย เรียนดำน้ำ ปีนผาจำลอง หรือวิ่งมาราธอน 

ฉะนั้น อย่ารู้สึกผิดถ้าคุณจะนอนขี้เกียจอยู่บ้านสักวัน อย่าลืมว่าการพักผ่อนก็สำคัญต่อการมีสุขภาพที่ดีเหมือนกัน