สุขภาพช่องปากผู้สูงวัย ดูแลไว้ก่อนจะกลายเป็น...มะเร็ง

“ช่องปาก” ประตูบานแรกที่เปิดเข้าสู่ร่างกาย ถึงแม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่ก็ต้องใส่ใจดูแล โดยเฉพาะกลุ่ม สว ที่ต่อให้จะเปลี่ยนไปใช้ฟันชุดที่ 3 (หรือฟันปลอม) แล้ว ก็อย่าคิดว่าจะละเลยได้ เพราะมีข้อมูลจากทะเบียนมะเร็งประเทศไทย โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้รายงานจำนวนผู้ป่วยมะเร็งช่องปากรายใหม่ว่ามีสูงถึง 4,214 คนต่อปี และมักพบในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป รู้แบบนี้แล้วยังจะปล่อยไปได้อีกเหรอ?



ปัญหาช่องปากของผู้สูงวัย มีอะไรบ้าง
ช่องปาก ประกอบด้วย ฟัน เหงือก เนื้อเยื่ออ่อน และกระดูกในช่องปาก ทำหน้าที่หลักในการเคี้ยว และการกลืนอาหาร ซึ่งเมื่อไหร่ที่มีปัญหาเหงือกและฟันก็ย่อมจะส่งผลกระทบต่อการเคี้ยว และกลืนอาหาร ยิ่งไปกว่านั้นยังจะส่งผลต่อโรคทางระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ฯลฯ เช่นเดียวกับโรคเกี่ยวกับเนื้อเยื่ออ่อน และกระดูกในช่องปากอย่างการติดเชื้อ เนื้องอก รวมถึงแผลในช่องปากเช่นกัน ซึ่งปัญหาช่องปากที่พบมากในผู้สูงวัย ได้แก่
  • สูญเสียฟัน เป็นอาการที่พบได้บ่อย โดยมักเป็นอาการท้ายๆ ของโรคในช่องปากต่างๆ 
  • ปากแห้ง น้ำลายน้อย อีกหนึ่งภาวะที่พบได้บ่อย ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการที่ร่างกายผลิตน้ำลายได้น้อยลง โดยเป็นผลข้างเคียงจากโรคเบาหวาน หรือการใช้ยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยานอนหลับ หรือยาขับปัสสาวะ
  • ฟันผุ พบมากบริเวณคอฟันและรากฟัน ซึ่งเกิดจากการสูญเสียเนื้อเหงือกและกระดูกรองรับรากฟันเสื่อมจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น บวกกับภาวะปากแห้งที่กระตุ้นให้ฟันผุได้ง่ายกว่าปกติ
  • เหงือกอักเสบ การทำความสะอาดฟันและช่องปากที่ไม่ถูกวิธี รวมถึงการทำความสะอาดฟันปลอมได้ไม่ดีพอ จะทำให้เกิดการสะสมของคราบจุลินทรีย์จนทำให้เกิดการสะสมของคราบหินปูนที่นำไปสู่โรคเหงือกอักเสบได้
  • ฟันล้ม ฟันเคลื่อน สำหรับผู้สูงอายุที่สูญเสียฟัน แล้วไม่ทำฟันปลอมทดแทนฟันที่เสียไป จะส่งผลกระทบต่อฟันข้างเคียง ทำให้ค่อยๆ ล้มลงมายังบริเวณช่องว่าง
  • แผลในช่องปาก ด้วยเหตุที่เนื้อเยื่อในช่องปากของผู้สูงอายุจะอ่อนแอกว่าปกติ จึงทำให้เกิดแผลในช่องปากได้ง่าย จากการถูกกระทบกระเทือนจากการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้ อาหารที่แข็ง หรือขอบฟันที่คม 



ยิ่งสูง (อายุ) ยิ่งเสี่ยง...มะเร็งช่องปาก 
ส่วนมะเร็งช่องปาก คือ ก้อนเนื้อร้ายที่เกิดขึ้นกับอวัยวะภายในช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นริมฝีปาก ลิ้น เหงือก กระพุ้งแก้ม เพดานปาก และพื้นปากใต้ลิ้น จัดว่ามีความรุนแรงและเป็นอันตรายหากตรวจพบในระยะลุกลาม พบได้มากในกลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไป ในผู้ชายมากว่าผู้หญิง ที่มีปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ได้แก่ การสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ทำให้มีรอยโรคสีแดงขาว หรือสีขาวปนแดงในช่องปากคล้ายกับแผลร้อนใน ในบางรายอาจมีก้อนเนื้อบวมโต หรือมีอาการชา ปวด เลือดไหลในช่องปากโดยไม่ทราบสาเหตุร่วมด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ผู้สูงวัยมักจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพช่องปาก ด้วยเพราะความเสื่อมถอยของอวัยวะในช่องปาก ทั้งฟัน เหงือก และเนื้อเยื่ออ่อน ร่วมกับโรคทางระบบหรือยาหลายๆ ชนิด ที่ส่งผลต่อสุขภาวะในช่องปาก ทำให้มีอาการปากแห้ง และแสบในช่องปากได้ นอกจากนี้การสะสมของสารก่อมะเร็งจากบุหรี่ หมาก หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็มักจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อในช่องปาก เกิดเป็นรอยโรคก่อนมะเร็ง หรือมะเร็งช่องปากในกลุ่มผู้สูงอายุเช่นกัน 



ดูแลใส่ใจ ห่างไกลมะเร็งช่องปาก 
สุขภาพช่องปากจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกับผู้สูงวัย ที่ควรต้องได้รับการดูแล โดยเน้นที่เหงือกและฟันเป็นหลัก ดังนี้
  • แปรงฟันและทำความสะอาดซอกฟันโดยใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันเป็นประจำทุกวัน เพราะคราบสะสมบนฟันสามารถเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุได้อย่างรวดเร็ว 
  • ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคฟันผุได้ โดยเฉพาะกับผู้สูงวัยที่มีปัญหา น้ำลายน้อย 
  • พบทันตแพทย์ตามกำหนดเวลา เพื่อทำความสะอาดและตรวจช่องปาก และควรแจ้งทันตแพทย์ให้ทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพร่างกาย ยาที่รับประทาน และปัญหาภายในช่องปากที่เกิดขึ้น 
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
  • ลดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง 
  • ดูแลฟันปลอมให้ถูกวิธี ไม่ควรใส่ฟันปลอมตอนนอนและทำความสะอาดฟันปลอมอย่างสม่ำเสมอด้วยการแปรงด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มกับน้ำสบู่เพื่อทำความสะอาดฟันปลอม 
 
ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ยิ้มได้สดใสถ้ามี (สุขภาพช่อง) ปากดี !
 
สนใจ แพ็กเกจตรวจสุขภาพ คลิก!
-->