ไม่อยากเครียด หงุดหงิดระหว่างทำงาน กินอาหารเช้าสิ ช่วยได้!



เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยโดน คุณพ่อคุณแม่ หรือคุณครูที่โรงเรียนสอนให้กินอาหารเช้าทุกวัน เพราะมันเป็นมื้อสำคัญต่อร่างกายและสมอง แต่พอโตมาเราก็ข้ามการกิอาหารเช้าไป ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างเช่น รีบ, ไม่หิว, หรือปัญหาเบสิกเลยคือไม่รู้จะกินอะไรดี รู้มั้ยตอนนี้เขามีวิจัยออกมาแล้วนะ ว่าการที่เราไม่กินอาหารเช้า จะส่งผลให้เราเครียด หงุดหงิดง่าย ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

 
แบบนี้ต้องแก้เครียดด้วยการกิน (มื้อเช้า) 
ผลการศึกษาจาก Harvard School of Public Health บอกว่า การอดมื้อเช้าจะเพิ่มความเครียดให้กับร่างกาย กระตุ้นอารมณ์อ่อนไหวง่าย ขี้หงุดหงิด เป็นเพราะร่างกายไม่ได้รับพลังงาน จึงมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลง การกินอาหารเช้าจะช่วยควบคุมสารเซโรโทนินและโดปามีนให้อยู่ระดับคงที่ ซึ่ง 2 สารนี้มีผลต่อการควบคุมความรู้สึกและอารมณ์
 
อาหารเช้าช่วยลดความเครียด แต่ถ้ากินไม่ดี ก็เครียดได้เหมือนกัน
ข้อมูลจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) บอกว่า มีผลการศึกษาจากประเทศอังกฤษเผยถึงการกินอาหารเช้าที่มีไขมันสูงจะทำให้สมองทำงานช้าลง เฉื่อย ล้า ขาดความคิดสร้างสรรค์ เพราะระหว่างกระบวนการย่อยไขมัน จะไปลดความกระฉับกระเฉง ความคล่องแคล่วว่องไว อีกทั้งการกินอาหารที่มีไขมันเยอะๆ จะทำให้เรามีโรคต่างๆ อย่างเช่น ไขมันอุดตัน, เบาหวาน, ความดัน, โรคหัวใจ, โรคอ้วน มาอยู่เป็นเพื่อนเพิ่มขึ้นอีกด้วย ถ้าใครอยากรู้ว่าอาหารเช้าที่ไม่ควรกินมีอะไรบ้าง เราลิสต์ไว้ให้แล้ว เข้าไปอ่านกันได้เลย!
 
นี่แหละ!...อาหารเช้าที่ใช่สำหรับเรา
ข้อมูลจาก นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่า อาหารเช้าที่เหมาะสมสำหรับทุกกลุ่มวัยควรมีค่าพลังงานประมาณ 400-450 กิโลแคลอรี และไม่ควรเลือกอาหารที่มีไขมันสูง หรือน้ำตาลสูง โดยคุณหมอได้แนะนำเมนูมื้อเช้าไว้ให้ดังนี้
 
#1 สลัดอกไก่, สลัดทูน่า
#2 ต้มเลือดหมู ข้าวเปล่า
#3 ข้าวต้มเครื่อง
#4 โจ๊กหมูใส่ไข่
#5 ธัญพืชกับนมสดรสจืด
#6 ผลไม้สด
 
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องการปรุงกันด้วยล่ะ เบามือได้ก็เบากันหน่อยนะ ลดหวาน ลดเค็ม เผื่อมื้อต่อไปกันด้วย อีกสิ่งที่สำคัญคือ เรารู้ว่าทุกคนหลังจากกินอาหารเช้าแล้วก็อยากจะได้น้ำหวานสักแก้วเพื่อเติมความหวานให้กับร่างกาย เป็นการ boost energy ให้พร้อมทำงานกันหน่อย สิ่งนี้แหละมันคือนังตัวดีที่จะทำให้เราเสียสุขภาพได้ง่ายๆ ถ้าจะกินจริงๆ ก็ขอให้เป็นหวานน้อย เลือกนมแบบ Low fat ได้จะดีมาก อย่ากินถี่มากจนเกินไปล่ะ อาทิตย์ละ 1-2 แก้วก็พอเนอะ เป็นห่วง
 
 
-->