อายุไม่ตรงปก ทำไมนะ? คนเอเชียถึงหน้าเด็ก


เคยเจอกันไหม? บางคนโดนทักว่าเรียนอยู่ชั้นอะไรแล้ว ทั้งๆ ที่เรียนจบจนเริ่มทำงานแล้ว หรือแม้กระทั่งเพื่อนต่างชาติที่มักจะช็อคทุกครั้งที่คุณบอกว่าอายุเท่าไหร่



ทำไมกันนะ.. ชาวเอเชียอย่างเราๆ ถึงหน้าอ่อนกว่าวัยกว่าชาวยุโรปหรืออเมริกา
หลักๆ เลย ปัจจัยทางพันธุกรรมของแต่ละเชื้อชาติมีความต่างกันอยู่แล้ว คนเอเชียทั้งตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้จะมีชั้นผิวหนัง (dermis) ที่หนากว่า โดยเฉพาะกลุ่มคนจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งความหนาของผิวเป็นปัจจัยหลักในการช่วยรักษาความชุ่มชื้นได้ดี และป้องกันการเกิดริ้วรอยได้มากกว่ากลุ่มคนผิวขาว (Caucasian) หรือชาวตะวันตก นอกจากนี้ความหนาแน่นของคอลลาเจนที่สูงกว่าทำให้ผิวยืดหยุ่นได้ดี

อีกข้อคือชาวเอเชียส่วนใหญ่มีเมลานิน eumelanin มากกว่าคนยุโรปที่ซึ่งมี phenomelanin เป็นหลัก และ eumelanin ตัวนี้มีประสิทธิภาพในการดูดซับรังสียูวีและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระได้ จึงเป็นผลดีในการลดความเสียหายของเซลล์ผิวจากแดดได้ เรื่องรอยเหี่ยวย่นหรือฝ้ากระจากแดดของชาวเอเชียมักเกิดช้ากว่าชาวยุโรป

คนเอเชียไปไหนก็คอยวิ่งหลบแดด
ด้วยวัฒนธรรมการดูแลผิวที่แตกต่างกัน เราคงเห็นกันอยู่ตลอด อย่างเช่นเวลาไปทะเล ชาวยุโรปหรือ อเมริกันมักชอบวิ่งเข้าหาแดด นอนอาบแดดได้ทีละหลายชั่วโมง แต่กลับกันชาวเอเชียอย่างเราๆ ต้องหาที่นั่งใต้ร่ม หรือใส่เสื้อคลุมให้ไม่แสบผิว นี่ก็เป็นปัจจัยนึงของความแตกต่างทางวัฒนธรรมในการดูแลผิว

หรือแม้กระทั่งสายสกินแคร์ต่างๆ มักจากมาจากประเทศเกาหลีหรือญี่ปุ่นเป็นหลัก เพราะชาวเกาหลีหรือญี่ปุ่นมักเริ่มต้นดูแลผิวตั้งแต่วัยรุ่น โดยเน้นการป้องกันก่อนรักษา ไม่ต้องรอให้ริ้วรอยหรือรอยดำขึ้นมาก่อน คนกลุ่มนี้มักป้องกันและดูแลผิวอย่างสม่ำเสมออย่างเช่นการทากันแดดเป็นประจำ หรือการดูแลความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าสม่ำเสมอ และอีกอย่างนึงคือค่านิยมความขาวเท่ากับสวย ทุกคนเลยพยายามเลี่ยงผิวคล้ำโดยการทากันแดดอย่างเป็นประจำ นี่เลยเป็นผลดีของการชะลอวัยอีกข้อนึงเลย 

ซึ่งแตกต่างจากชาวตะวันตกที่ยิ่งผิวแทน = ยิ่งสวย และเป็นการโชว์ฐานะทางสังคมว่าพวกเขามีเงินและวันหยุดที่สามารถบินไปเที่ยวอาบแดดที่ต่างประเทศได้ เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงนอนอาบแดดกันได้หลายชั่วโมงเลย แต่นั่นแหละ.. แดดและแสงยูวีก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัยได้เช่นเดียวกัน



รวมไปถึงวัฒนธรรมอาหารการกินของชาวเอเชียเช่นเดียวกัน
สไตล์การกินอาหารสไตล์คนเอเชียคืออาหารที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระรวมไปถึงการลดน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นปัจจัยหลักของการชะลอวัย ตัวอย่างเช่นชาวญี่ปุ่นมันกินปลาเป็นหลักซึ่งมี Omega-3 ช่วยลดการอักเสบ ทำให้ผิวดูใสไม่โทรม รวมไปถึงวัฒนธรรมการดื่มชาเขียวที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ส่วนคนไทยแทบทุกมื้อเรามีผักแกล้มตลอด เช่นผักบุ้ง ผักคะน้า ตำลึง พวกนี้มีวิตามิน A, C, E ต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอยเช่นเดียวกัน 

แต่พอพูดถึงฝั่งตะวันตก อาหารหลักๆ ส่วนใหญ่มักเป็นขนมปัง พาสต้า กลุ่มนี้จะเพิ่มน้ำตาลในเลือดทำให้เกิด glycation = ผิวหย่อนคล้อย โทรม รวมไปถึงชีสหรือผลิตภัณฑ์นมทั้งหลาย มีโอกาสเพิ่มความมันบนผิวเสี่ยงทั้งสิวและผิวอักเสบ รวมไปถึงอาหารทอดอย่างเฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด ซึ่งน้ำมันจากอาหารพวกนี้ออกซิไดซ์ง่าย และทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย

พฤติกรรมและทัศนคติก็มีส่วน เคยได้ยินมั้ย “สยามเมืองยิ้ม หรือ Thailand, the Land of smiles” 
คนที่มีมุมมองที่ดีต่ออายุและใช้ชีวิตแบบ active จะมีสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายที่ดี ซึ่งสะท้อนออกมาทางใบหน้า คนไทยหรือคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ มีวัฒนธรรมการอยู่เป็นชุมชน มีเพื่อนบ้าน แถมมีนิสัยขี้เล่น มีความเป็นกันเอง ยิ้มง่าย หัวเราะง่าย สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักในการลด cortisol หรือฮอร์โมนความเครียดได้ ซึ่งส่งผลโดยตรงในเรื่องของการชะลอวัย

คนเอเชียไม่ได้หน้าเด็กแค่เพราะกรรมพันธุ์ แต่เพราะรวมทุกอย่างจากภายในสู่ภายนอก ทั้งอาหารการกิน การดูแลผิว รวมไปถึงการมองเห็นแดดและยูวีเป็นศัตรูที่ต้องคอยหลบคอยหนี พร้อมป้องกันใส่ใจดูแลผิวมาตลอด จึงทำให้ผิวของคนเอเชียดูเด็กกว่าชาวตะวันตก

ที่มา
Rees JL (2004) – The genetics of sun sensitivity in humans.American Journal of Human Genetics.
Nagata C (2010) – Dietary patterns and their associations with skin aging in Japanese women. European Journal of Clinical Nutrition.
Kim JE & Cho KH (2009) – Skin-aging mechanisms and preventive strategies. Journal of Dermatological Science.
-->