เฮลธ์ตี้ให้สุด ด้วยถั่วและธัญพืช 10 ชนิดนี้กันดีกว่า

สาย Healthy ทั้งหลายคงรู้ดีกว่าถั่วและธัญพืชต่างๆ นั้นดีต่อสุขภาพ แถมไม่ทำให้อ้วนอีกต่างหาก เป็นได้ทั้งของว่างกินแก้หิว และนำไปประยุกต์เป็นอาหารจานหลัก ถือเป็น 'ของดี' ในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก - สำหรับเมืองไทยเราซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกิน แน่นอนว่าหาซื้อได้ง่าย

ปัจจุบันมีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มากมาย ยืนยันว่าถั่วและธัญพืชต่างๆ เป็นส่วนสำคัญของเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ รับรองว่าถ้ากินเป็นประจำทุกวัน จะสังเกตได้ถึงสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น... วันนี้เราเลยมาแนะนำว่า 10 ชนิดที่ไม่ควรพลาด มีอะไรบ้าง


 
1) เมล็ดทานตะวัน – อุดมด้วยกำมะถัน ดีต่อเนื้อเยื่อกระดูกและกล้ามเนื้อ ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านจุลชีพ และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ และยังมีการพิสูนจ์แล้วว่าสามารถป้องกันโรคหลอดลมและโรคปอดได้

2) เมล็ดฟักทอง – มีอาร์จินีน (arginine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ช่วยขยายหลอดเลือด ให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น จึงป้องกันความดันโลหิตสูงได้ และแม้ว่าจะมีแคลอรีในปริมาณสูง แต่เมล็ดฟักทองก็มีโปรตีนชนิดที่ง่ายต่อการดูดซึม ทั้งยังช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับปกติ จึงเหมาะจะเป็นของว่าง และที่หลายคนไม่ค่อยรู้ก็คือ ในอุตสาหกรมเครื่องสำอางมักใช้เมล็ดฟักทองเป็นส่วนประกอบ เพราะมีวิตามินเอและอีสูง ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นขึ้น



3) เมล็ดเจีย – เป็นพืชตระกูลเดียวกับกระเพราะและสะระแหน่ เป็นที่รู้จักในไทยไม่นานนักเพราะถิ่นกำเนิดอยู่ไกลถึงแถบอเมริกากลาง เมล็ดเจียอุดมด้วยกรดไขมันทั้งโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งมีประโยชน์ต่อการทำงานของหัวใจและเส้นเลือดหัวใจ ช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลและป้องกันเส้นเลือดอุดตัน นอกจากนี้วิตามินบี ซึ่งดีต่อผิวหนัง

4) งา – สารอาหารในงาช่วยให้ความดันโลหิตอยู่ในระดับปกติ สามารถป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย และไตวายได้ มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูงที่ช่วยลดคอเรสเตอรอลในเส้นเลือด นอกจากนี้ ยังมีน้ำมันปริมาณสูง จึงดีต่อผิวหนัง ผม และเล็บ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จากงาให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ขนมไปจนถึงน้ำมันที่ช้ประกอบอาหาร 


 
5) ถั่วลิสง – ของว่างที่อยู่คู่สังคมไทยมานานชนิดนี้ มีสารโพลีฟีนอลปริมาณสูง ช่วยป้องกันเซลล์จากอนุมูลอิสระ จึงคงความเป็นหนุ่มสาวไว้ ส่วนกรดไลโนเลอิกนั้นช่วยลดระดับคอเรสเตอรอล ลดความเสี่ยงเส้นเลือดตีบได้ เหมาะสำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนักเพราะช่วยให้อิ่มท้อง โดยเฉพาะถั่วต้มที่ไม่มีน้ำมันส่วนเกินแน่นอน

6) เฮเซลนัท – ชื่อของถั่วชนิดนี้อาจไม่คุ้นหูคนไทยนัก เพราะค่อนข้างมีราคาสูง เฮเซลนัทมีวิตามินบีสูงมาก ช่วยให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรง แถมช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้กรดอินทรีย์ยังลดระดับคอเรสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้



7) เม็ดมะม่วงหิมพานต์ – พืชถิ่นใต้ชนิดนี้มีธาตุเหล็กจำนวนมาก ซึ่งช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้ และเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานเพราะช่วยให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับปกติ นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนทำงานอย่างเราๆ ด้วยเนื่อจากมีวิตามินบีหนี่ง หรือไทแอมีน (thiamine) และฟอสฟอรัสที่ช่วยไม่ให้รู้สึกเหนื่อยล้าง่ายๆ อีกด้วย แถมยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งช่วยไม่ให้เป็นหวัดง่ายและระบบภูมิคุมกันดีขึ้นอีกด้วย - ประโยชน์รอบตัวจริงๆ

8) ถั่วพิสตาชิโอ – เมื่อเทียบกับถั่วชนิดอื่นแล้ว พิสตาชิโอไขมันและแคลอรีน้อยกว่า แต่มีโพแทสเซียมและแคโรทีนอยด์สูงมาก ซึ่งทั้งสองตัวนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระและมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้ เหมาะสำหรับเป็นของว่างของคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะช่วยให้ไม่รู้สึกหิวมากนัก



9) อัลมอนด์ – มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวาน เพราะช่วยปรับระดับไขมันในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดให้ผู้ป่วยเบาหวาน การกินเป็นของว่างก่อนมื้ออาหารจะช่วยลดระดับไขมัน ทั้งยังเป็นแหล่งโปรตีนของคนที่กินมังสวิรัติแต่ยังต้องการโปรตีน ทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ลดโอกาสการกินมากเกินไป

10) วอลนัท – สำหรับบ้านเราอาจหาซื้อยากและราคาสูง แต่วอลนัทเป็นที่นิยมไปทั่วโลก เพราะมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดระดับคอเรสเตอรอล และลดความผิดปกติที่อาจเกิดเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโทโคฟีรอล (tocopherol) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมันที่ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมากสำหรับคุณผู้ชายได้อีกด้วยนะ

รู้อย่างนี้แล้ว ลองหาโหลแก้วน่ารักๆ ใส่ถั่วนานาชนิดไว้ข้างตัว กินเป็นของว่างก็ไม่เลว หรือจะกินเป็นอาหารเช้าโดยผสมกับผลไม้และโยเกิร์ตไขมันต่ำ ก็เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพดีเหมือนกันนะ 

 
-->