“Erotomania” ที่สุดแห่งการแอบรัก (ข้างเดียว)

เคยหลงรักใครจนคิดจริงจังว่าเขาคือคนรักไปแล้วรึยัง?? ถ้าตอนนี้รู้สึกว่าเริ่มๆ มีความคิด หรือกำลังจะเขียนบันทึกจินตนาการไปต่างๆ เราอยากให้คุณวางทุกอย่างลง แล้วลองอ่านเรื่องราวที่เราจะเล่าให้ฟัง เพราะอาการคิดไปเองแบบนี้อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ทำลายสมดุลทางจิตใจจนทำให้เกิดโรค Delusional Disorder หรือโรคหลงผิดขึ้นมาได้...ซึ่งจัดเป็นอาการของโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่ง (Psychiatic) ที่จะอยู่ในกลุ่มของโรคจิตเภท (schizophrenia) นั่นเอง 

และเมื่อเราได้ศึกษาเกี่ยวกับโรคจิตเภท Delusional Disorder แยกย่อยออกมาอีกที ก็ทำให้ไปเจอกับเจ้า “Erotomania” หรือโรคจิตเภทที่หลายคนเรียกกันว่า "โรคขี้มโน" ซึ่งวันนี้จะพาคุณไปเจาะลึกกันว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง

ความหมายของ “Erotomania” (ฮีโรโตเมเนีย) คืออะไร?  

คำนี้มีชื่อเต็มทางการแพทย์ว่า  Erotomantic Delusional Disorder  ก่อนหน้านี้ถูกเรียกว่า Erotomantic ซึ่งเป็นคำที่คิดโดยจิตแพทย์ชาวฝรั่งเศส Etienne Esquirol ...เราขอแปลความหมายของคำว่า Erotomania ง่ายๆ ว่า “โรคหลงผิดไปรักเขา (ข้างเดียว)” ประมาณว่าคิดไปเอง เข้าใจว่าคนที่แอบชอบได้ตกลงปลงใจคบกันแบบชู้สาว ทั้งๆ ที่ในโลกแห่งความเป็นจริง ทั้งคู่แทบจะไม่ได้พูดคุยกัน หรือไม่เคยรู้จักกันเลยด้วยซ้ำ โดยฝ่ายที่ถูกแอบชอบนั้น มักจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงทางสังคมหรือมีชื่อเสียงโด่งดังจากสิ่งที่ทำเฉพาะด้าน เช่น เป็นศิลปิน นักร้อง หรือนักแสดง ซึ่งทางกรมสุขภาพจิตของบ้านเรา ( Department of Mental Health) ได้หยิบยกกรณีของการชื่นชอบศิลปินเกาหลีในคนไทยมาเป็นเคสตัวอย่าง โดยเรียกชื่อของภาวะนี้ว่า Romantic Delusion หรือภาวะคลั่งคนดังที่ทางสาวกแดนกิมจิหลายคนฟังดูแล้วอาจไม่เข้าหูซักเท่าไหร่…

เช็กลิสต์ อาการแบบไหนเข้าข่ายเสี่ยง! 

PRIMARY DATA หรือข้อมูลของทางกรมสุขภาพจิตตั้งแต่ปีพ.ศ. 2543 ย้อนไป 20 ปีที่แล้ว ช่วงที่ละครเรื่อง Autumn in my heart หรือ My sassy girl ( ปี 2003) รวมไปถึงช่วงที่ Jewel in the Palace (แดจังกึม) ปี 2005 กำลังออนแอร์อยู่ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มคนเข้าข่ายเสี่ยงมีภาวะหลงผิดแบบฮีโรโตเมเนียจะแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบคือ… 

1. กลุ่มคนที่มีอาการเสี่ยงแบบไม่รุนแรง (nonfatal violence) คือมีพฤติกรรมที่ไม่ได้ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

ตามหลักการทางจิตวิทยา กลุ่มคนที่อาจเข้าข่ายเสี่ยงแต่ไม่ได้จัดว่าเป็นอันตรายมากนักจะเป็นบุคคลที่ต้องการแค่ค้นหาอัตลักษณ์หรือไอดอลของตัวเอง เช่น ถ้าเป็นผู้ชายพวกเขาอาจหลงใหล "คุณอาร์โนลด์ ชวาซิเนเกอร์” ในหนังคนเหล็ก เพราะอยากเข้มแข็งอดทนและเป็นนักสู้ ขณะที่กลุ่มผู้หญิงก็อาจจะหลงรักผู้กองยูชีจิน (ซงจุงกิ) เพราะชื่นชอบผู้ชายอบอุ่นอ่อนโยนตรงสเป็ค

2. กลุ่มคนที่มีอาการเสี่ยงแบบรุนแรง (Homicide) คือมีพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดผลเสียในการใช้ชีวิตประจำวัน 

ซึ่งได้แก่พฤติกรรมที่ทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียนหรือการทำงาน เช่น การสอดส่องเรื่องราวของคนโปรดผ่านสื่อโซเชียลตลอดวันถึงขั้นรุกล้ำชีวิตส่วนตัวของพวกเขา บางเคสโกรธและโมโหคู่เดทของศิลปินอย่างบ้าคลั่ง อาการเริ่มต้นหลักๆ จะมาจากคิดไปเองว่าศิลปินคนดังเป็นคนรักของตน และจะต้องอยู่ในสายตาหรือจะต้องตกเป็นของตนไปตลอดชีวิต หากคนใกล้ตัวคุณมีพฤติกรรมนี้! นั่นก็แปลว่าภาวะของโรคจิตเภทชื่อ “Erotomania” ได้ก่อตัวในใจของเขาอย่างสมบูรณ์แบบแล้วล่ะ แต่ทั้งนี้ได้มีงานศึกษาบอกด้วยว่าบางทีผู้ป่วยกลุ่มนี้อาจมี "ภาวะซึมเศร้า" หรือ "ไบโพล่าร์" อยู่ก่อนแล้ว  

และนี่คือเคสใหญ่ๆ ที่ทำเอาทั่วโลกต้องอึ้ง!

..เคสนี้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ฉบับวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เกี่ยวกับชายคลั่งที่ประกาศลั่นว่า จะตามฆ่าว่าที่เจ้าบ่าวของนักเทนนิสสาวชาวฮังการี “โมนิก้า เซเลซ” ผ่านทวิตเตอร์หลังจากที่เธอออกมาบอกสื่อว่ากำลังจะแต่งงาน ซึ่งชายคลั่งตั้งใจจะติดตามเธอไปทุกที่จนทำเอานักเทนนิสรู้สึกกังวลใจมาก ทั้งนี้ทางสำนักพิมพ์ลงความเห็นว่า อาการทางจิตแบบนี้ “ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น” และถือเป็นเรื่องคุกคามรุนแรงที่สังคมต้องตระหนักและให้ความสำคัญอย่างจริงจัง!

เอาล่ะ นี่ก็เป็นเรื่องราวคร่าวๆ เกี่ยวกับโรคแอบรักข้างเดียวหรือ Erotomania อ่านมาถึงตรงนี้แล้วอย่าลืมสังเกตตัวเองและคนที่คุณรัก  หากคุณมีความคิดเห็นยังไงก็อย่าลืมคอมเม้นท์ใต้โพสน้าา หรือถ้าเคยมีประสบการณ์ตรงก็มาแชร์ให้ฟังกันได้  ส่วนใครที่อยากบอกเพื่อนหรือคนใกล้ตัวเพราะเป็นห่วงแต่ก็ไม่อยากทำร้ายความรู้สึก็ลองเอาบทความของเราไปโพสหน้าวอลดู แล้วไม่ต้องใส่ Caption เลยนะ...อย่างน้อยเขาก็น่าจะแอบเห็นบ้างล่ะ ^^


 

-->